HIGHLIGHTS
แนวทาง 3 ข้อให้พิจารณากันตามความเหมาะสม คือ (1)ทำเป็นเงินให้กรรมการกู้ยืมออกไป (2)จ่ายเงินปันผล แต่วิ๊นี้วิธีนี้จะต้องเสียภาษี 10% ให้กรมสรรพากร และ (3)ทำเป็นเงินโบนัสให้กับเจ้าของ แต่เงินโบนัสที่จ่ายนำมาเป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีของบริษัท ทำให้บริษัทเสียภาษีลดลงได้มากสุดถึง 20% (ตามอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลของแต่ละบริษัท) และเจ้าของได้รับเงินโบนัส จะถูกนำไปรวมเป็นเงินได้บุคคลธรรมดาเพื่อเสียภาษีด้วยครับ
หนึ่งในปัญหาชวนปวดหัวของเจ้าของกิจการคือบริษัทมีกำไร แต่ไม่รู้จะเอาเงินออกจากบริษัทอย่างไรดี บางคนเผลอใช้เงินส่วนตัวปนกับเงินบริษัทจนวุ่นวาย ทำให้ตัวเลขเงินคงเหลือในบัญชีของบริษัทกับเงินที่เหลืออยู่จริงๆ ไม่เท่ากัน อยากจะแก้ไขปัญหานี้ให้มันจบๆไปซะที
ผมจึงเสนอแนวทาง 3 ข้อให้พิจารณากันตามความเหมาะสมครับ
*** วิธีนี้มีข้อเสียคือ บริษัทให้กรรมการกู้จะต้องมีการคิดดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมเงิน เมื่อบริษัทมีรายได้ดอกเบี้ยรับถือเป็นเงินได้จะต้องเอาไปรวมในการคำนวนภาษีเงินได้นิติบุคคล ถ้าดอกเบี้ย รับเยอะก็จะเสียภาษีเยอะขึ้น (เหมือนระเบิดเวลา เพราะไม่ใช่วิธีแก้ไขระยะยาว)
เงินโบนัส
- เงินโบนัสที่จ่ายนำมาเป็นค่าใช้จ่ายทางภาษีของบริษัท ทำให้บริษัทเสียภาษีลดลงได้มากสุดถึง 20% (ตามอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลของแต่ละบริษัท)
- เจ้าของได้รับเงินโบนัส จะถูกนำไปรวมเป็นเงินได้บุคคลธรรมดาเพื่อเสียภาษี ดังนั้นนักบัญชีจะต้องวางแผนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาให้กับเจ้าของกิจการ เพื่อให้เสียภาษีให้คุ้มค่าที่สุด มันจะมีจุดที่ทำด้วยวิธีนี้แล้วคุ้มค่าต้องไปคำนวน