รายได้ตาม ภ.พ. 30 (แบบนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม) ควรจะเท่ากับรายได้ตาม ภ.ง.ด. 50 (แบบนำส่งภาษีประจำปี) ไม่งั้นอาจจะซวยได้
ซึ่งวันนี้ก็อยากจะมาแชร์เคสนี้ครับ ซึ่งเป็นเคสเมื่อนานมาแล้ว
ลูกเพจรายหนึ่งเข้ามาปรึกษาว่า กำลังจะต้องส่งงบการเงินประจำปี สำนักงานบัญชีส่งข้อมูลงบกำไรขาดทุนมาให้มีกำไร 2 ล้านจะต้องเสียภาษี สามารถทำอะไรได้บ้างมั้ย
ลูกเพจ : ให้เงินเดือนตัวเองได้มั้ยค่ะ
ผม : จะรออะไรละครับทำงานมาทั้งปีจ่ายเงินเดือนให้ตัวเองเถอะไม่ผิด
ลูกเพจ : ทำไมสำนักงานบัญชีไม่แนะนำอะไรเลย โทรไปก็ไม่รับ
ผม : เค้าอาจจะยุ่งก็ได้ ถ้าบริการไม่ดีก็เปลี่ยนเจ้ามั้ยครับ ว่าแต่ของเดิมเค้าคิดค่าบริการเท่าไหร่ครับ
ลูกเพจ : 1,500 บาทต่อเดือน
ผม : งั้นจ้างต่อไปครับโครตถูกเลย แล้วเรามาวางแผนภาษีเองก็ได้ครับ ราคานี้หาที่ไหนไม่ได้แล้ว
และแล้วก็ผ่านไป 3 วัน ลูกเพจก็ทักมาตอนเช้าว่าวันนี้สรรพากรจะเข้ามาหาเพื่อตรวจแนะนำ ผมก็บอกไปว่าชิวๆครับ อย่าไปกลัวเลยมันไม่มีอะไรเลยครับ เค้าแค่เข้ามาให้ความรู้ตามหน้าที่ครับ พอตอนเย็นลูกเพจก็ทัมาว่า
ลูกเพจ : พี่สรรพากรบอกว่ายอดขายตาม ภ.ง.ด. 50 กับ ภ.พ. 30 ไม่ตรงกัน ธุรกิจของน้องเป็นขายสินค้ามันควรจะต้องตรงกัน และพี่สรรพากรให้หนูไปหาสาเหตุ (พร้อมกันส่งรูปมาให้)
ผม : เอิ่มมมม ไม่ตรงกันจริงๆ ถามไปทางบัญชีรึยังครับ
ลูกเพจ : โทรไปแล้วคะ แต่เค้าบอกว่าคอมเค้าพังพอดี ไม่สามารถดูข้อมูลให้ได้
ผม : เอิ่มมมม ช่วยตัวเองแล้วกันครับ
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าอย่าเห็นแก่ของถูก เพราะสำนักงานบัญชีไม่ใช่มูลนิธิ ถ้าค่าบริการต่อเดือนน้อยแสดงว่าเค้าจะต้องรับลูกค้าจำนวนมากขึ้นเพื่อให้อยู่ได้ และการใส่ใจหรือคุณภาพอาจจะน้อยลงครับ
ปล. ประมาณคร่าวๆ เคสนี้น่าจะบาดเจ็บประมาณ 200,000 บาทที่จะต้องจ่ายภาษีเพิ่มครับ
- ผู้ตรวจสอบบัญชีรับอนุญาต
- ที่ปรึกษาทางด้านภาษี
- อาจารย์พิเศษ