กค 0702/3488
-
มาตรา 40(4)(ข)(ช) มาตรา 48(1)(2) มาตรา 50(2) และมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร
-
ตลาดหลักทรัพย์ฯ มีนโยบายที่จะเพิ่มสินค้าในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยการอนุญาตให้บริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ (Foreign Issuer) เข้ามาระดมทุนโดยการเสนอขายหลักทรัพย์ในประเทศไทยและนำหลักทรัพย์ของตนยื่นขอ จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ และคาดว่าจะมี Foreign Issuer รายแรกยื่นคำขอจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในเดือน พฤศจิกายน 2552 ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงขอหารือภาระภาษีของ Foreign Issuer ที่มีการระดมทุนโดยการเสนอขายหลักทรัพย์ ในประเทศไทยและภาระภาษีของผู้ลงทุนในหลักทรัพย์ดังกล่าว สำหรับเงินได้ที่เกิดจากกำไรจากการซื้อขายหลักทรัพย์และ เงินปันผล เป็นต้น
กรณีบริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ (Foreign Issuer) เข้ามาระดมทุนโดยการเสนอขายหลักทรัพย์ใน ประเทศไทย มีภาระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคล ดังนี้
1. กรณีบริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ (Foreign Issuer) ออกหลักทรัพย์เสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในประเทศไทย หรือเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นตามสัดส่วนการถือหุ้น (Right Offering) และมีส่วนล้ำมูลค่าหุ้น ราคาของหุ้นเฉพาะส่วนเกินกว่ามูลค่าหุ้น ไม่ถือเป็นเงินได้จากการประกอบกิจการหรือเนื่องจากการประกอบกิจการของบริษัท หากแต่เป็นส่วนของทุนของบริษัทจึงไม่ต้องนำ มาคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้
2. เงินปันผลที่ได้รับจากบริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ (Foreign Issuer) เข้าลักษณะเป็นเงินได้ตามมาตรา 40(4)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร ผู้มีเงินได้ดังต่อไปนี้ มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคล คือ
2.1 บุคคลธรรมดาที่มีเงินได้ตามมาตรา 40(4)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร เนื่องจากทรัพย์สินที่อยู่ในต่างประเทศมี หน้าที่เสียภาษีเงินได้ตามมาตรา 41 วรรคสองและวรรคสาม แห่งประมวลรัษฎากร และต้องนำไปรวมคำนวณภาษีตามมาตรา 48(1) และ (2) แห่งประมวลรัษฎากร และผู้จ่ายเงินได้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 10 ของเงินได้ ตามมาตรา 50(2)(จ) แห่ง ประมวลรัษฎากร เนื่องจากเงินปันผลดังกล่าวมิใช่เงินปันผลซึ่งได้รับจากบริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย ผู้มีเงินได้จึงไม่มีสิทธิเลือก เสียภาษีในอัตราร้อยละ 10 ของเงินได้ตามมาตรา 48(3) วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร และไม่ได้รับเครดิตในการคำนวณภาษีตาม มาตรา 47 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร
บุคคลธรรมดาซึ่งมิได้เป็นผู้อยู่ในประเทศไทยรวมเวลาทั้งหมดไม่ถึง 180 วันในปีภาษี และมีเงินได้ตามมาตรา 40(4)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร ไม่มีหน้าที่ต้องเสียภาษีจากเงินปันผลตามมาตรา 41 วรรคสองและวรรคสาม แห่งประมวลรัษฎากร
2.2 บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยหรือที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศและกระทำ กิจการในประเทศไทย ซึ่งมีเงินได้ตามมาตรา 40(4)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้ตามมาตรา 66 แห่งประมวล รัษฎากร และผู้จ่ายเงินได้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย ในอัตราร้อยละ 10 ของเงินได้ ตามข้อ 5 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป. 4/2528 เรื่อง สั่งให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่ายลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2528
บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศมิได้ประกอบกิจการในประเทศไทย แต่ได้รับเงินได้ ตามมาตรา 40(4)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร จากบริษัทที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ (Foreign Issuer) ไม่มีหน้าที่เสียภาษี เงินได้ตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร
3. กำไรจากการขายหลักทรัพย์ เข้าลักษณะเป็นเงินได้ตามมาตรา 40(4)(ช) แห่งประมวลรัษฎากร ผู้ลงทุนในหลักทรัพย์ซึ่งเป็น ผู้มีเงินได้ดังต่อไปนี้ มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคล คือ
3.1 บุคคลธรรมดาที่มีเงินได้ตามมาตรา 40(4)(ช) แห่งประมวลรัษฎากร ต้องนำไปรวมคำนวณภาษีตามมาตรา 48(1) และ (2) แห่งประมวลรัษฎากร และผู้จ่ายเงินได้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย ตามอัตราภาษีเงินได้ตามมาตรา 50(2) วรรคหนึ่ง แห่ง ประมวลรัษฎากร เว้นแต่เงินได้ที่จ่ายให้แก่ผู้รับซึ่งมิได้เป็นผู้อยู่ในประเทศไทยให้คำนวณหักภาษีในอัตราร้อยละ 15 ของเงินได้ ตาม มาตรา 50(2)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร หากเป็นเงินได้จากการขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ผู้มีเงินได้จะได้รับยกเว้นภาษี เงินได้ตามข้อ 2(23) ของกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 (พ.ศ. 2509) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร
3.2 บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยหรือที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ และ กระทำกิจการในประเทศไทย ซึ่งมีเงินได้ตามมาตรา 40(4)(ช) แห่งประมวลรัษฎากร มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้ตามมาตรา 66 แห่ง ประมวลรัษฎากร
บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศมิได้ประกอบกิจการในประเทศไทย แต่ได้รับ เงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(4)(ช) แห่งประมวลรัษฎากร มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้ตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร โดยให้ ผู้จ่ายหักภาษีจากเงินได้พึงประเมินที่จ่ายในอัตราร้อยละ 15 ของเงินได้ ทั้งนี้ บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมาย ของต่างประเทศอาจได้รับยกเว้นภาษีหรือลดอัตราภาษีตามอนุสัญญาภาษีซ้อนระหว่างประเทศไทยและประเทศคู่สัญญาต่างๆ