กค 0702/6194
30 มิถุนายน 2558
มาตรา 48(5) แห่งประมวลรัษฎากร
78/39758
บริษัทหลักทรัพย์ A จำกัด (มหาชน) มีหน้าที่จ่ายเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ (กองทุนฯ) ให้แก่สมาชิกเมื่อเกษียณอายุตามข้อบังคับกองทุนฯ ซึ่งกรณีที่สมาชิกเกษียณอายุก่อนกำหนด (อายุไม่ครบ 55 ปี) ตามโครงการร่วมใจจากองค์กร โดยเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับกองทุนฯ ว่าด้วยเรื่องการเกษียณอายุ หากสมาชิกประสงค์จะคงเงินไว้ในกองทุนฯ เพื่อขอรับในภายหลังเป็นรายงวด กล่าวคือ ขอรับเป็นรายเดือน รายไตรมาส รายปี หรือแบ่งส่วนเลือกรับเงินก้อนในปีแรกที่ออกจากงานและปีถัดไปขอรับเป็นรายเดือน ซึ่งขณะที่สมาชิกออกจากงานนั้น สมาชิกคนดังกล่าวเป็นสมาชิกกองทุนฯ มาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี บริษัทฯ ขอหารือดังนี้
1.กรณีสมาชิกรับเงินก้อนแรกหรืองวดแรก สมาชิกมีสิทธิเลือกเสียภาษีแยกต่างหากจากเงินได้อื่น ตามมาตรา 48(5) แห่งประมวลรัษฎากร หรือไม่ อย่างไร และบริษัทฯ จะต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย สำหรับเงินก้อนแรกนี้อย่างไร
2.กรณีสมาชิกขอรับเงินจากกองทุนฯ สำหรับเงินก้อนถัดไปหรือรายงวดถัดไป บริษัทฯ จะต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายจากเงินที่จ่ายให้แก่สมาชิกอย่างไร
1.กรณีสมาชิกกองทุนฯ (อายุไม่ครบ 55 ปี) ได้ออกจากงานตามโครงการร่วมใจจากองค์กร และเป็นไปตามระเบียบข้อบังคับกองทุนฯ ว่าด้วยเรื่องการเกษียณอายุ เงินหรือผลประโยชน์ใดๆ ที่สมาชิกได้รับจากกองทุนฯ เข้าลักษณะเป็นเงินได้เนื่องจากการจ้างแรงงาน ตามมาตรา 40(1) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งเป็นเงินที่นายจ้างจ่ายให้ครั้งเดียวเพราะเหตุออกจากงาน ดังนั้น หากสมาชิกกองทุนฯ มีความประสงค์เลือกรับเงินจากกองทุน โดยแบ่งส่วนรับเงินในปีแรกที่ออกจากงาน และรับในปีถัดไปด้วยนั้น สมาชิกกองทุนฯ ย่อมมีสิทธิเลือกเสียภาษี ตามมาตรา 48(5) แห่งประมวลรัษฎากร ได้เฉพาะเงินได้ที่ได้จ่ายในปีภาษีแรกที่มีการจ่ายเงินได้ดังกล่าวเท่านั้น ทั้งนี้ ตามข้อ 2(ข) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 45) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ของเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา 40(1) และ (2) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งนายจ้างจ่ายให้ครั้งเดียวเพราะเหตุออกจากงานตามมาตรา 48(5) และมาตรา 50(1) แห่งประมวลรัษฎากร ลงวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2535 และบริษัทฯ ในฐานะผู้จ่ายเงินได้ จะต้องคำนวณหักภาษี ณ ที่จ่ายตามมาตรา 50(1) วรรคสาม แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับข้อ 4 ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 45)ฯ ลงวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2535
2.กรณีสมาชิกกองทุนฯ ได้รับเงินหรือผลประโยชน์ใดๆ จากกองทุนในปีถัดไปซึ่งเป็นเงินส่วนที่เหลือจากการรับเงินในปีแรก เงินได้ดังกล่าวเข้าลักษณะเป็นเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40(1) แห่งประมวลรัษฎากร ผู้มีเงินได้ต้องนำเงินได้นั้นไปคำนวณเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามมาตรา 48(1) แห่งประมวลรัษฎากร และบริษัทฯ ในฐานะผู้จ่ายเงินได้ ย่อมมีหน้าที่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายตามมาตรา 50(1) แห่งประมวลรัษฎากร
