กค 0706/747
31 มกราคม 2551
มาตรา 77/1(8) และ (10) มาตรา 72/2 มาตรา 82/5(3) มาตรา 82/3 มาตรา 9 ทวิ และมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร
71/35612
1. คณะบุคคลฯ ประกอบกิจการรับจ้างทำบัญชีให้ลูกค้าที่เป็นบริษัทและนิติบุคคลทั่วไป โดยมีห้างหุ้นส่วนจำกัดฯ เป็น ลูกค้าของคณะบุคคลฯ ซึ่งจากการสำรวจเอกสารประกอบการลงบัญชีพบว่า ใบส่งสินค้า/ใบกำกับภาษี ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2549 และหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2549 ซึ่งเป็นเอกสารที่บริษัท ป. จำกัด ผู้ขายสินค้าได้ออกให้กับ ห้างฯ โดยระบุว่าเป็นสินค้าส่งเสริมการขาย ซึ่งเป็นสินค้าประเภทเดียวกันกับที่ห้างฯ จำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน แต่มูลค่าต่อหน่วย ของสินค้าส่งเสริมการขายของห้างฯ จะต่ำกว่าราคาที่บริษัทฯ จำหน่ายให้กับทางห้างฯ และหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย มีวิธีการคำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่ายแตกต่างไปจากปีที่ผ่านมาที่ห้างฯ เคยได้รับโดยคิดจากยอดรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม ดังนี้
ยอดรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม จำนวนเงิน 453,385.14 x 100/97 = 467,407.36 บาท
การคำนวณภาษีหัก ณ ที่จ่าย 467,407.36 x 3% = 14,022.22 บาท
2. คณะบุคคลฯ ขอหารือแนวทางปฏิบัติและการบันทึกบัญชีภาษีอากรดังนี้
2.1 กรณีภาษีซื้อที่ติดมากับสินค้าส่งเสริมการขาย ซึ่งบริษัทฯ เป็นผู้ออกให้ ห้างฯ มีสิทธินำภาษีซื้อดังกล่าว ไปหัก จากภาษีขายหรือไม่อย่างไร และกรณีบริษัทฯ เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากห้างฯ ห้างฯ สามารถนำภาษีมูลค่าเพิ่มดังกล่าวไปหัก จากภาษีขายได้หรือไม่
2.2 การคำนวณภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายมีหลักเกณฑ์อย่างไร เป็นไปตามกฎหมายใด
2.3 การบันทึกบัญชีภาษีอากรอันเกี่ยวข้องกับภาษีเงินได้นิติบุคคลภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย มีแนวทางปฏิบัติอย่างไร เป็นไปตามกฎหมายใด
2.4 รายได้จากการส่งเสริมการขายต้องรวมมูลค่าสินค้าส่งเสริมการขายโดยไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มใช่หรือไม่ อย่างไร
2.5 ห้างฯ บันทึกรับสินค้าส่งเสริมการขาย โดยกำหนดเป็นรหัสสินค้าแยกต่างหากจากสินค้าที่ห้างฯ ซื้อมา ขายไปตามปกติของธุรกิจ โดยห้างฯ มีนโยบายว่า สินค้าที่ได้รับจากการส่งเสริมการขายดังกล่าว ห้างฯ จะแถมให้กับลูกค้า ของตนไปพร้อมกับการขายสินค้าปกติ โดยมีการกำหนดสัดส่วนในการแถมไว้ และสินค้าส่งเสริมการขายบันทึกรับเข้าเฉพาะ ในส่วนปริมาณ และเมื่อลูกค้ารายใดมีสิทธิจะได้รับการแถม ห้างฯ จะบันทึกตัดออกจากสต็อคทันที ส่วนมูลค่าราคารวมของ สินค้าส่งเสริมการขายในใบกำกับภาษี ห้างฯ จะนำไปบันทึกเป็นรายได้จากการส่งเสริมการขายในลักษณะดังนี้ ถูกต้องตาม ประมวลรัษฎากรและตามหลักบัญชีภาษีอากรหรือไม่
1. กรณีตาม 2.1 และ 2.2
ภาษีมูลค่าเพิ่ม
กรณีบริษัทฯ ให้รางวัล ส่วนลด หรือประโยชน์เนื่องจากการส่งเสริมการขายให้แก่ห้างฯ หากเข้าลักษณะเป็นสินค้า หรือบริการตามมาตรา 77/1(8) และ (10) แห่งประมวลรัษฎากร อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 77/2 แห่ง ประมวลรัษฎากร เมื่อบริษัทฯ เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มจากห้างฯ แล้ว หากภาษีซื้อดังกล่าว เป็นภาษีซื้อที่เกี่ยวข้องโดยตรง กับการประกอบกิจการไม่ต้องห้ามตามมาตรา 82/5(3) แห่งประมวลรัษฎากร ห้างฯ มีสิทธินำภาษีซื้อดังกล่าว มาหักออกจากภาษีขายในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 82/3 แห่งประมวลรัษฎากร
ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย
การหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย หากเป็นกรณีบริษัทฯ ให้รางวัล ส่วนลด หรือประโยชน์เนื่องจากการส่งเสริมการขาย ให้แก่ผู้มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหรือบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ประกอบกิจการในประเทศไทย แต่ไม่รวมถึงมูลนิธิ หรือสมาคม ให้คำนวณหักภาษี ณ ที่จ่ายในอัตราร้อยละ 3.0 เว้นแต่ การให้รางวัล ส่วนลด หรือประโยชน์ใดๆ เนื่องจาก การส่งเสริมการขายให้แก่ผู้ซื้อสินค้าหรือผู้รับบริการซึ่งเป็นผู้บริโภค หรือเป็นผู้ประกอบการที่นำสินค้าหรือบริการไปใช้ในการ ประกอบกิจการของตนเองโดยตรง โดยมิได้มีวัตถุประสงค์ที่จะนำไปขายต่อ ไม่อยู่ในบังคับต้องหักภาษี ณ ที่จ่าย แต่อย่างใด ทั้งนี้ ตามข้อ 12/2 ของคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.4/2528 เรื่องสั่งให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่งประมวล รัษฎากร มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ.2528 ซึ่งการคำนวณหักภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ให้คำนวณ เฉพาะมูลค่าสิ่งของตามราคาหรือค่าอันพึงมีในวันที่ส่งมอบของนั้น โดยไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
2. กรณีตาม 2.3 หากบริษัทฯ และห้างฯ ได้ตกลงกัน โดยให้บริษัทฯ ผู้จ่ายเงินได้เป็นผู้ออกภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย แทนห้างฯ และหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ระบุชื่อห้างฯ เป็นผู้ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย ห้างฯ มีสิทธินำภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย มาถือเป็นเครดิตในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล และห้างฯ ต้องนำภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายที่บริษัทฯ ออกแทนไปรวม เป็นรายได้เพื่อคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล ตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร
3. กรณีตาม 2.4 และ 2.5 การคำนวณรายได้จากการส่งเสริมการขายสำหรับ รางวัล ส่วนลด หรือประโยชน์ ที่ห้างฯ ได้รับเนื่องจากการส่งเสริมการขายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลให้คำนวณเป็นรายได้โดยถือตามราคา หรือค่าอันพึงมีในวันที่ได้รับตามมาตรา 9 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากรโดยห้างฯ มีสิทธิบันทึกรับรู้รายได้ตามหลักบัญชีที่รับรอง โดยทั่วไปวิธีใดก็ได้ แต่ในการรับรู้รายได้เพื่อประโยชน์ในการคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลนั้น ห้างฯ จะต้องบันทึกรับรู้ รายได้ตามเกณฑ์สิทธิ กล่าวคือห้างฯ จะต้องนำรายได้ที่เกิดขึ้นในรอบระยะเวลาบัญชีใด แม้ว่าจะยังมิได้รับชำระในรอบระยะ เวลาบัญชีนั้น มารวมคำนวณเป็นรายได้ในรอบระยะเวลาบัญชีนั้น และให้นำรายจ่ายทั้งสิ้นที่เกี่ยวกับรายได้ แม้จะยังมิได้จ่าย ในรอบระยะเวลาบัญชีนั้น มารวมคำนวณเป็นรายจ่ายของรอบระยะเวลาบัญชีนั้น ตามมาตรา 65 วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร