views

ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีขออนุมัติเปลี่ยนจากวิธีการเฉลี่ยภาษีซื้อมาถือเป็นรายจ่ายของกิจการ

วันที่: 2 สิงหาคม 2544
เลขที่หนังสือ

กค 0811/พ.7652

วันที่

2 สิงหาคม 2544

ข้อกฎหมาย

มาตรา 82/6

เลขตู้

64/30735

ข้อหารือ

     บริษัทฯ จดทะเบียนจัดตั้งตามกฎหมายไทย ประกอบกิจการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาสัตว์และ
เคมีภัณฑ์ โดยบริษัทฯ ได้ยื่นแบบแสดงรายการเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่มอย่างถูกต้อง
ครบถ้วนมาโดยตลอด
     การประกอบกิจการของบริษัทฯ มีทั้งกิจการที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มและกิจการที่ต้องเสีย
ภาษีมูลค่าเพิ่ม มาตั้งแต่ปี 2535 และบริษัทฯ มีสัดส่วนรายได้ของกิจการที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มไม่
น้อยกว่าร้อยละ 90 มาตั้งแต่ปี 2536 เป็นต้นมา และบริษัทฯ ได้เฉลี่ยภาษีซื้อมาโดยตลอด
     ต่อมาบริษัทฯ ได้ทราบว่า หากรายได้ของปีที่ผ่านมาของกิจการที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มมี
จำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของรายได้ของกิจการทั้งหมด บริษัทฯ มีสิทธิเลือกไม่นำภาษีซื้อทั้งจำนวน
ไปหักออกจากภาษีขาย แต่ให้นำไปรวมคำนวณเป็นมูลค่าต้นทุนของทรัพย์สินหรือรายจ่ายของกิจการได้โดย
ไม่ต้องทำการเฉลี่ยภาษีซื้อ ตามข้อ 3(2) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม
(ฉบับที่ 29) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการเฉลี่ยภาษีซื้อ ตามมาตรา 82/6 แห่ง
ประมวลรัษฎากร ซึ่งบริษัทฯ เห็นว่าวิธีการนี้ เป็นวิธีการที่สะดวกมากกว่า
     บริษัทฯ ขออนุมัติเปลี่ยนจากวิธีการเฉลี่ยภาษีซื้อเป็นวิธีการนำภาษีซื้อทั้งจำนวนมาถือเป็น
รายจ่ายของกิจการ ตั้งแต่รอบระยะเวลาบัญชีปี 2544 เป็นต้นไป

แนววินิจฉัย

     กรณีการเฉลี่ยภาษีซื้อ ถ้ารายได้ของกิจการที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มมีจำนวนไม่น้อยกว่า
ร้อยละ 90 ของรายได้ของกิจการทั้งหมด ตามข้อเท็จจริงดังกล่าวบริษัทฯ มีสิทธิเลือกปฏิบัติได้โดย
ไม่ต้องขออนุมัติต่ออธิบดีกรมสรรพากรแต่อย่างใด ดังนี้
     (1) เฉลี่ยภาษีซื้อตามสัดส่วนของรายได้ของปีที่ผ่านมา ตามข้อ 2(3) ของ
ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 29)ฯ ลงวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2535
หรือ
     (2) เลือกไม่นำภาษีซื้อทั้งจำนวนไปหักออกจากภาษีขาย แต่ให้นำไปรวมคำนวณเป็นมูลค่า
ต้นทุนทรัพย์สินหรือรายจ่ายของกิจการ ตามข้อ 3(2) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับ
ภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 29)ฯ ลงวันที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2535
     บริษัทฯ มีสิทธิเลือกปฏิบัติตาม (2) ได้ และหากบริษัทฯ ได้เลือกปฏิบัติตาม (2) แล้ว ก็ให้
ถือปฏิบัติเป็นอย่างเดียวกันตลอดไป เว้นแต่จะได้รับอนุมัติจากอธิบดีกรมสรรพากรให้เปลี่ยนแปลงได้