กค 0702/6896
9 สิงหาคม 2555
กฎกระทรวง 126 (พ.ศ. 2509)ฯ
75/38246
ธนาคารฯ หารือกรณีกฎกระทรวง ฉบับที่ 277 (พ.ศ. 2553) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ลงวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2553 และประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 188) เรื่องกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการ เพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินหรือผลประโยชน์ใดๆ ที่ได้รับจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ลงวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2553 ดังนี้
1. กรณีออกจากงานเพราะเกษียณอายุ ตามระเบียบข้อบังคับของธนาคารฯ กำหนดให้พนักงานเกษียณอายุในวันสิ้นปีของปีที่มีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ หากสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่เกษียณอายุแจ้งขอคงเงินไว้ในกองทุน โดยที่ข้อบังคับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของธนาคารฯ กำหนดให้สมาชิกที่ขอคงเงิน (หมายถึงสมาชิกที่สิ้นสุดสมาชิกภาพเพราะเหตุออกจากงาน และขอคงเงินที่สมาชิกมีสิทธิได้รับทั้งหมดไว้ในกองทุน) สามารถคงเงินทั้งหมดที่สมาชิกมีสิทธิได้รับไว้ในกองทุนได้เป็นระยะเวลา 3 ปี นับจากวันที่ออกจากงาน เช่น นาย ก. เกษียณอายุในปี 2553 และมีสิทธิได้รับเงินหรือผลประโยชน์เนื่องจากการออกจากงาน จำนวน 1,000,000 บาท และแจ้งขอคงเงินไว้ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพตามระยะเวลาที่กำหนดในข้อบังคับ (3 ปี) ดังนั้น หากในปี 2556 นาย ก. ได้รับเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจำนวน 1,000,000 บาท และมีผลประโยชน์เพิ่มที่เกิดในช่วงระยะเวลาที่คงเงินไว้ในกองทุนอีกจำนวน 100,000 บาท รวมเป็นเงิน 1,100,000 บาท นาย ก. จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ บุคคลธรรมดาจากจำนวน 1,000,000 บาท หรือ 1,100,000 บาท
2. กรณีที่ออกจากงานในกรณีอื่นนอกจากเกษียณอายุ ทุพพลภาพ หรือตาย และแจ้งขอคงเงินไว้ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เช่น นาย ก. ลาออกจากงานขณะมีอายุ 59 ปี และมีสิทธิได้รับเงินหรือผลประโยชน์เนื่องจากการออกจากงาน จำนวน 1,000,000 บาท โดยแจ้งขอคงเงินไว้ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นเวลา 1 ปี ต่อมานาย ก. ได้รับเงินจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเมื่อมีอายุครบกำหนดเกษียณอายุ จำนวน 1,000,000 บาท และมีผลประโยชน์เพิ่มที่เกิดในช่วงระยะเวลาที่คงเงินไว้ในกองทุน อีกจำนวน 100,000 บาท รวมเป็นเงิน 1,100,000 บาท นาย ก. จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้จากจำนวน 1,000,000 บาท หรือ 1,100,000 บาท
3. กรณีการขอรับเงินจากกองทุนเป็นงวด ตามมาตรา 23/2 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พ.ศ. 2530 ที่กำหนดว่า " เมื่อลูกจ้างรายใดสิ้นสมาชิกภาพเพราะการเกษียณอายุตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในข้อบังคับของกองทุน หากลูกจ้างรายนั้นแสดงเจตนาขอรับเงินจากกองทุนเป็นงวดให้ผู้จัดการกองทุนจ่ายเงินจากกองทุนตามเจตนาของลูกจ้าง โดยลูกจ้างรายนั้นยังคงเป็นสมาชิกกองทุนต่อไปตามระยะเวลาที่กำหนดในข้อบังคับของกองทุนแต่ลูกจ้างรายนั้นและนายจ้างไม่ต้องจ่ายเงินสะสมหรือเงินสมทบสำหรับลูกจ้างรายนั้นอีก ทั้งนี้ การรับเงินจากกองทุนเป็นงวดให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่นายทะเบียนประกาศกำหนด" ดังนั้น หากสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่เกษียณอายุแจ้งความประสงค์ขอรับเงินจากกองทุนเป็นงวดตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนดดังกล่าว เงินและผลประโยชน์เพิ่มดังกล่าวตามข้อ 1 และข้อ 2 จะได้รับยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาเช่นเดียวกับการคงเงินไว้ในกองทุนหรือไม่
1. กรณีตาม 1. และ 2. เนื่องจากข้อ 2 (36) ของกฎกระทรวงฉบับที่ 126 (พศ. 2509)ฯ ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2509 ระบุว่า เงินหรือผลประโยชน์ใดๆ ที่ได้รับจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้ ดังนั้น เงินและผลประโยชน์ที่เกิดขึ้นในระหว่างที่คงเงินไว้ในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ที่พนักงานเกษียณอายุหรือพนักงานออกจากงานกรณีอื่นได้รับจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ถ้าเป็นไปตามพระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พ.ศ. 2530 โดยการเกษียณอายุตามข้อบังคับนั้นพนักงานต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 55 ปีบริบูรณ์ และต้องเป็นสมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมาโดยตลอดและต้องเป็นสมาชิกมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 ปี ต่อเนื่องกัน หากเป็นสมาชิกยังไม่ถึง 5 ปีต่อเนื่องกัน ต้องเป็นสมาชิกไปจนมีระยะเวลาการเป็นสมาชิกไม่น้อยกว่า 5 ปี ต่อเนื่องกัน ย่อมได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ทั้งนี้ ตามข้อ 2 (36) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 (พ.ศ. 2509)ฯ ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2509 ประกอบกับข้อ 3 และข้อ 4 ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 188)ฯ ลงวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2553 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 202) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข และวิธีการ เพื่อการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินหรือผลประโยชน์ใดๆ ที่ได้รับจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ลงวันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2554
2. กรณีตาม 3. การแสดงเจตนาขอรับเงินหรือผลประโยชน์ใดๆ จากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเป็นงวด ที่เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมายว่าด้วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ เงินหรือผลประโยชน์ที่ได้รับจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพดังกล่าวได้รับยกเว้นไม่ต้องรวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามข้อ 2 (36) แห่งกฎกระทรวงฉบับที่ 126 (พ.ศ. 2509)ฯ ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2509 ประกอบกับข้อ 3 และข้อ 4 ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 188)ฯ ลงวันที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2553