views

ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีเงินได้ที่ได้รับจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2541
เลขที่หนังสือ

กค 0811/02152

วันที่

18 กุมภาพันธ์ 2541

ข้อกฎหมาย

ประเด็นปัญหา

เลขตู้

61/26417

ข้อหารือ

     หลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขเกี่ยวกับการคำนวณภาษีเงินได้ที่สมาชิกได้รับจากกองทุน
สำรองเลี้ยงชีพเมื่อพ้นสมาชิกภาพในส่วนที่เป็นเงินสมทบ และผลประโยชน์ของเงินสะสมและเงินสมทบ
กรณี
     1. สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพลาออกจากกองทุนฯ แต่ยังไม่ได้ลาออกจากงาน
     2. บริษัทฯ ยกเลิกกองทุนฯ โดยที่สมาชิกกองทุนฯ ยังมีสภาพเป็นพนักงานของบริษัทอยู่

แนววินิจฉัย

     กรณีพนักงานของบริษัทฯ ได้รับเงินในส่วนที่เป็นเงินสมทบ และผลประโยชน์ของเงินสะสม
และเงินสมทบจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ โดยที่พนักงานยังไม่
ได้ลาออกจากบริษัทฯ ตามข้อเท็จจริง ถือว่าเงินได้พึงประเมินที่ได้รับดังกล่าว เป็นเงินได้ที่ได้รับ
เนื่องจากการจ้างแรงงานตามมาตรา 40 (1) แห่งประมวลรัษฎากร และเมื่อพนักงานได้รับเงินได้ โดย
ยังมิได้ลาออกจากงานแต่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ต่อไปตามปกติ จึงถือไม่ได้ว่าเป็นเงินที่นายจ้างจ่ายให้
ครั้งเดียวเพราะเหตุออกจากงาน ซึ่งไม่มีสิทธิ์เลือกเสียภาษี ตามมาตรา 48 (5) แห่งประมวลรัษฎากร
และไม่ได้รับยกเว้นภาษีเงินได้ตามข้อ 2 (36) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 (พ.ศ. 2509) ประกอบ
กับประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 52) ลงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2538
ดังนั้น พนักงานต้องนำเงินได้ดังกล่าว ไปรวมคำนวณกับเงินเดือนตามปกติ และบริษัทฯ ในฐานะ
ผู้จ่ายเงินได้มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 50 (1) แห่งประมวลรัษฎากร ดังนี้
      เนื่องจากการจ่ายเงินได้ดังกล่าวเป็นการจ่ายเพียงครั้งเดียวหรือจำนวนครั้งที่รับเงินไม่แน่
นอนหรือไม่สม่ำเสมอตลอดปี การคำนวณภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ให้คูณเงินได้พึงประเมินที่จ่ายด้วย
"หนึ่ง" แล้วรวมกับเงินเดือนทั้งปี เพื่อให้ได้จำนวนเงินเสมือนหนึ่งว่าได้จ่ายทั้งปี แล้วคำนวณภาษีตาม
เกณฑ์ในมาตรา 48 แห่งประมวลรัษฎากร เป็นเงินภาษีทั้งสิ้นเท่าใด ให้หักออกด้วยภาษีสำหรับเงินเดือน
คงเหลือเท่าใดให้หารด้วย "หนึ่ง" ผลลัพธ์เท่าใด ให้หักเป็นเงินภาษีไว้เท่านั้น