กค 0702/8514
26 กันยายน 2555
มาตรา 48(5) แห่งประมวลรัษฎากร
75/38293
1. นางสาว บ.ทำงานที่ธนาคาร ป. ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2547 และลาออกจากงานเมื่อวันที่ 20 กันยายน 2549 รวมระยะเวลาทำงาน 2 ปี 19 วัน ต่อมานางสาว บ. เข้าทำงานที่ธนาคาร ล. เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2549 และได้โอนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานธนาคาร ป. ไปด้วย และลาออกจากธนาคาร ล. เมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2552 รวมระยะเวลาทำงาน 3 ปี 21 วัน ในปีภาษี 2552 หลังจากนั้น ได้กลับไปทำงานที่ธนาคาร ป. ตั้งแต่วันที่ 16 พฤศจิกายน 2552 จนถึง ปัจจุบัน โดยมิได้โอนเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานธนาคาร ล. (กองทุนสำรองเลี้ยงชีพฯ) ไปด้วย นางสาว บ. ขอรับเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพจากบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ท. ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพฯ และหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามหลักเกณฑ์ในมาตรา 48(5) แห่งประมวลรัษฎากร โดยไม่นำเงินได้จากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพฯ ไปรวมกับเงินได้อื่น นางสาว บ. ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.91) แสดงเงินเดือน จำนวนเงิน 1,893,964.74 บาท และเงินที่นายจ้างจ่ายให้ครั้งเดียวเพราะเหตุออกจากงานประเภทเงินที่จ่ายจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพฯ จำนวนเงิน 335,534.82 บาท จำนวนเงิน 335,534.82 บาท (ตามใบแนบ ภ.ง.ด.91) คำนวณแล้วมีภาษีคืนจำนวนเงิน 69,526.53 บาท
2. สท.กรุงเทพมหานคร แจ้งให้นางสาว บ. ไปยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 เพิ่มเติม สำหรับภาษีปี 2552 เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2553 โดยนำเงินเดือนจำนวนเงิน 1,893,964.74 บาท และเงินที่จ่ายจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพฯ จำนวนเงิน 335,534.82 บาท รวมเป็นเงินได้ทั้งสิ้น 2,229,449.56 บาท มาคำนวณภาษี มีภาษีชำระเพิ่มเติมจำนวนเงิน 21,697.84 บาท
3. ต่อมาวันที่ 14 มิถุนายน 2553 นางสาว บ. ยื่นคำร้องขอคืนภาษี (ค.10) สำหรับปีภาษี 2552 จำนวนเงิน 91,224.37 บาท (69,526.53 (ตาม 1) + 21,697.84 (ตาม 2)) เนื่องจากเงินได้ที่ได้รับจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพฯ จำนวนเงิน 335,534.82 บาท เลือกเสียภาษีตามมาตรา 48(5) แห่งประมวลรัษฎากร เนื่องจากนับอายุการทำงานต่อกันได้ สท.กรุงเทพมหานคร มีหนังสือแจ้งไม่คืนเงินภาษีอากรดังกล่าว และนางสาว บ. ได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งไม่คืนเงินต่อ สท.กรุงเทพมหานคร ผู้ทำคำสั่งทางปกครอง
กรณีตามข้อเท็จจริงนางสาว บ. ได้ลาออกจากธนาคาร ป. และเข้าทำงานกับธนาคาร ล. โดยทันทีอย่างต่อเนื่อง ได้โอนเงินกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไปด้วย โดยธนาคาร ป. ไม่ได้จ่ายเงินได้ครั้งเดียวเพราะเหตุออกจากงานให้แก่นางสาว บ. กรณีดังกล่าว เพื่อ วัตถุประสงค์ในการนับอายุการลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพฯ นางสาว บ. มีสิทธินับอายุการทำงานที่อยู่กับธนาคาร ป. ต่อเนื่องรวมกับอายุการทำงานที่อยู่กับธนาคาร ล. ได้ ดังนั้น เมื่อนางสาว บ. ลาออกจากธนาคาร ล. และได้รับเงินที่จ่ายจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ นางสาว บ. ย่อมมีสิทธิเลือกนำเงินที่ได้รับจากกองทุนสำรองเลี้ยงชีพดังกล่าว ไปคำนวณเสียภาษีแยกต่างหากจากเงินได้อื่นตามมาตรา 48(5) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับข้อ 2(ก) ของประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 45)ฯ ลงวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2535