views

ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีเงินสนับสนุนโครงการส่งเสริมกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์

วันที่: 14 พฤศจิกายน 2557
เลขที่หนังสือ

กค 0702/พ./8554

วันที่

14 พฤศจิกายน 2557

ข้อกฎหมาย

มาตรา 77/1 (10) และมาตรา 77/2 แห่งประมวลรัษฎากร

เลขตู้

77/39395

ข้อหารือ

          1. สำนักงานฯ เป็นหน่วยงานของรัฐ ได้ทำบันทึกข้อตกลงโครงการส่งเสริมกระบวนการพัฒนาซอฟต์แวร์ (Software Process Improvement) (บันทึกข้อตกลงโครงการฯ) กับ สภาฯ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ประกอบกิจการบริการให้คำปรึกษา สถาปัตยกรรมและวิศวกรรม

          2. บันทึกข้อตกลงโครงการฯ มีข้อตกลงสรุปได้ว่า

               2.1 สำนักงานฯ ตกลงที่จะดำเนินการตามโครงการพัฒนามาตรฐาน TQS เป็นระบบมาตรฐาน ISO เพื่อยกระดับมาตรฐานวิศวกรรมซอฟต์แวร์ไทย โดยมอบหมายให้สภาฯ เป็นผู้ดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จ

               2.2 สำนักงานฯ ตกลงสนับสนุนงบประมาณให้สภาฯ เพื่อดำเนินตามบันทึกข้อตกลงโครงการฯ โดยแบ่งออกเป็น 4 งวด ดังต่อไปนี้

               2.3 ลิขสิทธิ์รวมทั้งสิทธิใดๆ อันเกิดจากการดำเนินงานตามบันทึกข้อตกลงนี้ ให้ตกเป็นของสำนักงานฯ

               2.4 หากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งของผู้ร่วมบันทึกข้อตกลงนี้ ไม่สามารถปฏิบัติตามบันทึกข้อตกลงทั้งหมดหรือบางส่วนของโครงการฯ ตามกรอบแผนปฏิบัติการงบประมาณ 2551 ให้ฝ่ายนั้นแจ้งให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบเพื่อแก้ไขบันทึกข้อตกลงภายใน 7 วัน นับจากวันที่ไม่สามารถปฏิบัติได้ และให้ทั้งสองฝ่ายหารือร่วมกันเพื่อแก้ไขข้อขัดข้องดังกล่าว ทั้งนี้ เพื่อให้โครงการสำเร็จตามวัตถุประสงค์

          3. สำนักงานฯ ขอทราบว่า

               3.1 เมื่อสภาฯ ได้รับเงินจำนวนดังกล่าวต้องออกใบกำกับภาษีให้สำนักงานฯ หรือไม่ อย่างไร

               3.2 ตามบันทึกข้อตกลงโครงการฯ เงินสนับสนุนงบประมาณ มิได้มีข้อความระบุว่าจำนวนเงินดังกล่าวรวมภาษีมูลค่าเพิ่ม จะถือว่าเงินจำนวนดังกล่าวรวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้วหรือไม่ หากจำนวนเงินดังกล่าวไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม สำนักงานฯ จะสงวนสิทธิในการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มที่นำส่งได้หรือไม่

แนววินิจฉัย

          1. กรณีตามข้อเท็จจริง สภาฯ ซึ่งเป็นนิติบุคคล ได้ให้บริการตามโครงการพัฒนามาตรฐาน TQS เป็นระบบมาตรฐาน ISO เพื่อยกระดับมาตรฐานวิศวกรรมซอฟต์แวร์ไทย โดยให้ลิขสิทธิ์รวมทั้งสิทธิใดๆ จากการดำเนินการดังกล่าวตกเป็นของสำนักงานฯ จะได้รับเงินสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานฯ จำนวน 1,950,000 บาท จากการดำเนินการดังกล่าว เข้าลักษณะเป็นการให้บริการที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 77/1 (10) และมาตรา 77/2 แห่งประมวลรัษฎากร และมีหน้าที่ต้องเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มและออกใบกำกับภาษีเมื่อได้รับเงินจำนวนดังกล่าวจากสำนักงานฯ ตามมาตรา 82/4 และมาตรา 86 แห่งประมวลรัษฎากร โดยสภาฯ ต้องนำมูลค่าทั้งหมดที่ได้รับหรือพึงได้รับจากการให้บริการดังกล่าว มารวมเป็นมูลค่าของฐานภาษีในการคำนวณภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 79 แห่งประมวลรัษฎากร

          2. กรณีเงินสนับสนุนงบประมาณดังกล่าว สำนักงานฯ กับ สภาฯ จะกำหนดให้รวมภาษีมูลค่าเพิ่มไว้ในค่าบริการหรือแยกภาษีมูลค่าเพิ่มออกจากค่าบริการก็ได้ ตามมาตรา 82/4 วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร