กค 0706/2003
14 กุมภาพันธ์ 2550
มาตรา 65 ตรี (6) มาตรา 77/2 แห่งประมวลรัษฎากร พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 300) และประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 65)ฯ
70/34785
บริษัทฯ ประกอบกิจการโดยมีสัญญาให้บริการหาลูกค้าในประเทศไทยให้กับบริษัท S
Taiwan (S ) โดยบริษัทฯ เรียกเก็บค่านายหน้าและภาษีมูลค่าเพิ่มในการให้บริการจัดหาลูกค้า
ในประเทศไทยจาก S จำนวนร้อยละ 5 หลังภาษีมูลค่าเพิ่มของมูลค่าสินค้าตาม Invoice รวมเป็น
จำนวน 6,987.58 USD ต่อมา S ได้ชำระค่านายหน้าดังกล่าวให้แก่บริษัทฯ ซึ่งจ่ายเงินมาจาก
ต่างประเทศ และได้หักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ร้อยละ 20 คงเหลือจำนวนเงินได้ที่บริษัทฯ จะได้รับ
เท่ากับ 5,590.06 USD บริษัทฯ จึงขอทราบว่า
1. เมื่อบริษัทฯ ได้รับชำระค่านายหน้าจากบริษัท S บริษัทฯ ต้องใช้มูลค่าใดเป็นฐาน
ในการออกใบกำกับภาษีให้ถูกต้อง
2.หากบริษัทฯ ได้ให้บริการดังกล่าวแก่ลูกค้าในต่างประเทศ ซึ่งเป็นประเทศที่ไม่มีอนุสัญญา
ภาษีซ้อนกับประเทศไทย บริษัทฯ มีสิทธิ์นำภาษีที่ถูกหักภาษี ณ ที่จ่ายในต่างประเทศมาถือเป็น
รายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิเพื่อเสียภาษีของบริษัทฯ ได้หรือไม่ และต้องมีหลักฐานหนังสือ
รับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายจากต่างประเทศมาประกอบการพิจารณาหรือไม่
1. การให้บริการจัดหาลูกค้าในประเทศไทยของบริษัทฯ เข้าลักษณะเป็นการให้บริการ
ในราชอาณาจักรตามมาตรา 77/2 แห่งประมวลรัษฎากร โดยฐานภาษีสำหรับการให้บริการใน
ราชอาณาจักรได้แก่ค่าตอบแทนตามที่ปรากฏในใบ Invoice ที่ผู้ประกอบการได้รับจากการให้
บริการตามมาตรา 79 แห่งประมวลรัษฎากร
2.หากบริษัทฯ ได้ให้บริการแก่ลูกค้าที่มีถิ่นที่อยู่ในต่างประเทศ ซึ่งเป็นประเทศที่ไม่มี
อนุสัญญาภาษีซ้อนกับประเทศไทย บริษัทฯ มีสิทธิในการเลือกเพื่อบรรเทาภาระภาษีที่เสียไปแล้ว
ในต่างประเทศ โดยอาจนำภาษีที่ถูกจัดเก็บในต่างประเทศมายกเว้นภาษีที่ต้องเสียในประเทศไทย
ตามพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 300)
พ.ศ. 2539 โดยปฏิบัติตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีเงินได้ (ฉบับที่ 65) เรื่อง กำหนด
หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ตั้งขึ้น
ตามกฎหมายไทย ลงวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 ประการหนึ่ง หรืออาจนำภาษีที่ถูกจัดเก็บใน
ต่างประเทศมาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิได้ไม่ต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี (6) แห่ง
ประมวลรัษฎากร โดยการนำภาษีที่ถูกจัดเก็บในต่างประเทศมายกเว้นภาษีที่ต้องเสียในประเทศไทย
หรือนำมาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิได้นั้น ทั้งนี้ ต้องมีหลักฐานหรือหนังสือรับรอง
โดยเจ้าหน้าที่ของต่างประเทศที่มีหน้าที่เกี่ยวข้อง โดยหลักฐานหรือหนังสือรับรองดังกล่าวต้องมี
รายละเอียดที่แสดงให้เห็นว่าได้ชำระภาษีไปเมื่อใด และจำนวนภาษีที่ชำระไปในต่างประเทศทั้งสิ้น
มีจำนวนเท่าใด