กค 0702/2450
17 กุมภาพันธ์ 2558
ตามมาตรา 3 เตรส แห่งประมวลรัษฎากร คำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป. 176/2552
78/39509
บริษัทฯ ได้หารือว่า กรณีดังต่อไปนี้ บริษัทฯ ยังคงได้รับยกเว้นภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ตามคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป. 176/2552 เรื่อง สั่งให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ลงวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2552 หรือไม่ อย่างไร
1. กรณีบริษัทฯ ทำสัญญาเช่าทรัพย์สินแบบลีสซิ่ง กำหนดระยะเวลาการเช่า 3 ปี ภายหลัง คู่สัญญาตกลงยกเลิกสัญญาเช่าก่อนครบกำหนดระยะเวลา 3 ปี
2. กรณีบริษัทฯ ทำสัญญาเช่าทรัพย์สินแบบลีสซิ่ง กำหนดระยะเวลาการเช่า 5 ปี ต่อมาคู่สัญญาตกลงยกเลิกสัญญาเช่าเมื่อสัญญาเช่าดำเนินมาถึง 3 ปี 10 เดือน
3. กรณีบริษัทฯ ทำสัญญาเช่าทรัพย์สินแบบลีสซิ่ง กำหนดระยะเวลาการเช่า 3 ปี เมื่อใกล้ครบกำหนดระยะเวลา หรือครบกำหนดระยะเวลาแล้ว คู่สัญญาตกลงต่ออายุของสัญญาเช่าออกไปอีก 1 ปี หรือมากกว่า โดยไม่มีการเปลี่ยนสัญญาใหม่ รวมถึงมูลหนี้และทรัพย์สินก็ยังคงเป็นมูลหนี้และทรัพย์สินตามสัญญาเดิม
กรณีสัญญาเช่าที่บริษัทฯ กระทำลง มีการตกลงเลิกสัญญาก่อนกำหนดระยะเวลาหรือมีการตกลงต่ออายุของสัญญาไม่ว่าก่อนหน้าหรือภายหลังสัญญาเดิมสิ้นสุด หากค่าเช่า ค่าธรรมเนียม หรือ ราคาทรัพย์สิน ที่ผู้เช่าได้จ่ายให้แก่ผู้ให้เช่าเพราะข้อตกลงตามสัญญาหรือเพราะการเลิกสัญญา มีจำนวนรวมไม่ท่วมมูลค่าของทรัพย์สินที่เช่า ณ วันเริ่มต้นของสัญญาเช่า หรือมีพฤติการณ์อื่นใดอันแสดงว่าความเสี่ยงทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมดยังตกอยู่กับผู้เป็นเจ้าของทรัพย์สินสัญญาดังกล่าวย่อมมีลักษณะเป็นสัญญาเช่าทรัพย์สินแบบเช่าดำเนินงาน (OPERATING LEASE) มิใช่สัญญาเช่าทรัพย์แบบลีสซิ่งอันมีลักษณะเป็นการให้เช่าทรัพย์สินแบบเช่าทางการเงิน (FINANCIAL LEASE) บริษัทฯ ย่อมอยู่ในบังคับที่จะต้องถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 3 เตรส แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป. 4/2528 เรื่อง สั่งให้ผู้จ่ายเงินได้พึงประเมิน ตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ลงวันที่ 26 กันยายน พ.ศ. 2528 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป. 176/2552ฯ ลงวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2552