กค 0702/1270
8 มีนาคม 2564
มาตรา 47 ทวิ มาตรา 40 (4) (ข) มาตรา 3 อัฏฐ
84/51070
นาง น. ได้ยื่นคำร้องขอขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา (ภ.ง.ด.90) มีข้อเท็จจริงสรุปได้ ดังนี้
1. นาง น. ยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 สำหรับปีภาษี 2555 เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2556 แสดงเงินได้ พึงประเมินตามมาตรา 40 (4) (ข) แห่งประมวลรัษฎากร ประเภทเงินปันผลจำนวน 40,805,375.75 บาท เครดิตภาษีจำนวน 17,322,365.89 บาท ภาษีหัก ณ ที่จ่าย และ เครดิตภาษีจำนวน 21,402,903.48 บาท ขอคืนเงินภาษีอากรจำนวน 1,196,449.08 บาท ได้รับเงินภาษีอากรคืนแล้วจำนวน 1,196,449.07 บาท
2. ผลการตรวจสอบการจ่ายเงินปันผลของบริษัท ร. (บริษัทฯ) พบว่า ในปี 2555 บริษัทฯ จ่ายเงินปันผลจากกำไรสะสมหลังหักเงินสำรองตามกฎหมายให้แก่ผู้ถือหุ้นจำนวน 4 ครั้ง ซึ่งในการจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2555 เป็นการจ่ายจากกำไรสุทธิ ที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตราร้อยละ 3 เนื่องจากเป็นรายได้ที่เกิดจากการผลิตสินค้า ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ จังหวัดปัตตานี โดยผู้ถือหุ้นได้นำเงินปันผลที่บริษัทจ่ายใน ครั้งที่ 1 ดังกล่าว มาใช้เครดิตภาษีตามมาตรา 47 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร ในอัตรา ร้อยละ 30 ซึ่งเป็นการใช้เครดิตภาษีไม่ถูกต้อง เป็นเหตุให้ผู้ถือหุ้นได้รับเงินภาษีอากรคืน เกินไปหรือชำระภาษีไว้ไม่ครบถ้วน
3. จากการวิเคราะห์ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับปีภาษี 2555 ใหม่ ปรากฏว่า นาง น. มีภาษีที่ต้องชำระเพิ่มจำนวน 2,066,514.86 บาท เงินเพิ่มคำนวณถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2560 จำนวน 1,766,870.04 บาท มีเงินภาษีที่ได้รับคืนเกินไปจำนวน 1,196,449.07 บาท ซึ่ง นาง น. ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับปีภาษี 2555 เพิ่มเติม เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2560 ชำระภาษีจำนวน 2,066,514.86 บาท ไว้แล้ว สำหรับเงินเพิ่มขอค้างชำระไว้ และชำระภาษีอากรที่ได้รับเงินคืนเกินไปจำนวน 1,196,449.07 บาท ตามหนังสือแจ้งให้ส่งคืนเงินที่ผิดพลาด เรียบร้อยแล้ว
4. นาง น. ได้ขอขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 สำหรับปีภาษี 2555 ตามมาตรา 3 อัฏฐ แห่งประมวลรัษฎากร เพื่อของดหรือลดเงินเพิ่ม โดยให้เหตุผลว่า การยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 สำหรับปีภาษี 2555 แสดงเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 40 (4) (ข) แห่ง ประมวลรัษฎากร ประเภทเงินปันผลและคำนวณเครดิตภาษีเงินปันผลดังกล่าวโดยอ้างอิง
ข้อเท็จจริงจากหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ที่ได้รับจากบริษัทฯ ระบุเป็นการจ่าย จากกำไรสุทธิที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตราร้อยละ 30 มิใช่อัตราร้อยละ 3 ซึ่ง นาง น. ยืนยันว่าการยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 ดังกล่าว กระทำถูกต้อง และการที่ต้องชำระภาษี และเงินเพิ่มเพิ่มเติม และต้องคืนเงินภาษีที่ได้รับคืนเกินไปนั้น มิได้เกิดจากความบกพร่อง หรือเจตนาหลบเลี่ยงภาษี จึงขอขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 สำหรับปีภาษี 2555 เพื่อของดหรือลดเงินเพิ่มตามกฎหมาย
กรณีตามข้อเท็จจริง ในปีภาษี 2555 บริษัทฯ ได้จ่ายเงินปันผลให้แก่ นาง น. รวมทั้งสิ้น 4 ครั้ง ตามหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่ายของบริษัทฯ ที่ออกให้แก่นาง น. ปรากฏว่า ในการจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 2 ถึงครั้งที่ 4 มีการระบุว่าจ่ายจากกำไรสุทธิของกิจการที่ต้องเสีย ภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตราใด แต่การจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2555 บริษัทฯ หักภาษี ณ ที่จ่ายไว้ แต่หนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย ไม่ได้ระบุว่าเงินปันผล ที่จ่ายนั้นได้มาจากกิจการที่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตราใด ประกอบกับ ผลการตรวจสอบบริษัทฯ ผู้จ่ายเงินปันผล พบว่า การจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 1 เป็นการจ่ายจาก กำไรสุทธิที่เสียภาษีในอัตราร้อยละ 3 จากรายได้ที่เกิดจากการผลิตสินค้าในเขตพัฒนาพิเศษ เฉพาะกิจ ดังนั้น กรณีที่นาง น. คำนวณเครดิตภาษีตามมาตรา 47 ทวิ แห่งประมวล รัษฎากร เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด เป็นเหตุให้ได้รับเงินภาษีคืนเกินไปหรือชำระไว้ ไม่ครบถ้วนตามมาตรา 47 ทวิ วรรคสี่ แห่งประมวลรัษฎากร เนื่องจากบริษัทฯ ที่จ่าย เงินปันผลไม่ได้ระบุอัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลในหนังสือรับรองการหักภาษี ณ ที่จ่าย นาง น. จึงใช้อัตราภาษีเงินได้นิติบุคคลในการคำนวณเครดิตภาษีเงินปันผลไม่ถูกต้อง กรณี ยังถือไม่ได้ว่ามีเหตุจำเป็นจนไม่สามารถที่จะปฏิบัติตามกำหนดเวลาการยื่นแบบแสดง รายการได้ จึงไม่อนุมัติให้ขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบ ภ.ง.ด.90 สำหรับปีภาษี 2555 ของ นาง น. ตามมาตรา 3 อัฏฐ วรรคหนึ่ง แห่งประมวลรัษฎากร
