กค 0702/5168
6 ตุลาคม 2564
มาตรา 80/1 (4)
84/51241
(1) มูลนิธิฯ ซึ่งเป็นองค์กรที่มิได้แสวงหาผลกำไร และมิได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม สามารถขอรับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มและหรือภาษีอื่น ๆ อันจะเกิดขึ้นจากการซื้อสินค้าและบริการซึ่งได้รับการสนับสนุนจากสหภาพยุโรปและองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้หรือไม่
(2) หากมูลนิธิฯ มีความประสงค์ขอเงินทุนสนับสนุนเพื่อดำเนินโครงการจากองค์กรอื่น ๆ ที่มีข้อกำหนดให้ขอรับการยกเว้นภาษีทุกประเภท อันจะเกิดจากการซื้อสินค้าและบริการเพื่อใช้ในการดำเนินโครงการ มูลนิธิฯ สามารถขอยกเว้นภาษีดังกล่าว ได้หรือไม่
1. มูลนิธิฯ ได้รับการประกาศให้เป็นองค์การหรือสถานสาธารณกุศล ตามประกาศกระทรวงการคลัง ว่าด้วยภาษีเงินได้และภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 2) เรื่อง กำหนดองค์การ สถานสาธารณกุศลสถานพยาบาลและสถานศึกษา ตามมาตรา 47 (7) (ข) แห่งประมวลรัษฎากร และมาตรา 3 (4) (ข) แห่งพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 239) พ.ศ. 2534 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 254) พ.ศ. 2535 ลงวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2535 ได้รับเงินทุนสนับสนุนจากสหภาพยุโรปเพื่อดำเนินโครงการต่าง ๆ และได้รับเงินทุนสนับสนุนจาก WHO เมื่อมูลนิธิฯ มิใช่กระทรวง ทบวง กรม ราชการ ส่วนท้องถิ่น หรือรัฐวิสาหกิจ ผู้ประกอบการจดทะเบียนที่ขายสินค้าหรือให้บริการแก่ มูลนิธิฯ จึงไม่ได้รับสิทธิเสียภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 0 ตามมาตรา 80/1 (4) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 28) เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขายสินค้าหรือให้บริการกับกระทรวง ทบวง กรม ราชการส่วนท้องถิ่น หรือรัฐวิสาหกิจตามโครงการเงินกู้หรือเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ ตามมาตรา 80/1 (4) แห่งประมวลรัษฎากรลงวันที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2535
2. กรณีมูลนิธิฯ ชำระค่าสินค้าหรือบริการด้วยเงินทุนสนับสนุนดังกล่าวให้แก่ผู้ประกอบการ จดทะเบียน มูลนิธิฯ จะต้องถูกเรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตราร้อยละ 7 ตามมาตรา 82/4 แห่งประมวลรัษฎากร และกรมสรรพากรไม่อาจพิจารณายกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มให้ได้