กค 0702/573
2 กุมภาพันธ์ 2566
มาตรา 3 (1) พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 698) พ.ศ. 2563
-
บริษัท ก. (บริษัทฯ) ได้ดำเนินการก่อสร้างอาคารบ้านพักตากอากาศ และรีโนเวทโรงแรม เมื่อปี 2563 มีกำหนดแล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไข ที่กำหนดไว้ในมาตรา 4 (1) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 698) พ.ศ. 2563 แต่เนื่องจาก บริษัทฯ ประสบปัญหาหลายอย่างในช่วงเวลาดังกล่าว เช่น การล็อคดาวน์เนื่องจากการ แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019 ทำให้ผู้รับเหมาไม่สามารถปฏิบัติงานได้ ตลอดจนเกิดมรสุมตั้งแต่เดือนมิถุนายนถึงเดือนสิงหาคมจนทำให้การก่อสร้างเป็นไปอย่าง ล่าช้า และบริษัทฯ ประสบปัญหาการขาดสภาพคล่องทางการเงิน เพราะธนาคารชะลอ การอนุมัติเงินกู้ จนเป็นเหตุให้บริษัทฯ ไม่สามารถดำเนินการก่อสร้างและรีโนเวทโรงแรม ให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2563 ได้ ต่อมาบริษัทฯ ได้เพิ่มทุนจดทะเบียน ในปี 2563 และคาดว่าจะดำเนินการก่อสร้างโรงแรมแล้วเสร็จในปี 2564 ดังนั้น บริษัทฯ จึงขอให้กรมสรรพากรพิจารณาให้บริษัทฯ มีสิทธินำค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างและรีโนเวท โรงแรมที่ได้จ่ายไปในระหว่างปี 2563 ถึงปี 2564 ไปใช้สิทธิยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลตาม พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 698) พ.ศ. 2563 ได้
ตามมาตรา 3 ประกอบกับมาตรา 4 (1) แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 698) พ.ศ. 2563 กำหนดให้ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งเป็นผู้ประกอบ ธุรกิจโรงแรมตามกฎหมายว่าด้วยโรงแรม เป็นจำนวนร้อยละหนึ่งร้อยห้าสิบของรายจ่าย ตามจำนวนที่จ่ายจริง สำหรับเงินได้เท่ากับรายจ่ายที่ได้จ่ายเพื่อการต่อเติม เปลี่ยนแปลง ขยายออก หรือทำให้ดีขึ้นซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการ โดยมีเงื่อนไขกำหนดว่าต้องเป็น ทรัพย์สินที่ได้มาและอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานตามประสงค์ภายในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2563 ซึ่งกรณีดังกล่าวไม่มีบทบัญญัติแห่งกฎหมายให้อำนาจอธิบดีกรมสรรพากร ในการที่จะอนุโลมหรือผ่อนผันเงื่อนไขตามที่กฎหมายกำหนดไว้ให้เป็นอย่างอื่นได้