กค 0702/2490
8 พฤษภาคม 2566
มาตรา 65 ตรี (19) แห่งประมวลรัษฎากร
-
ในการก่อตั้งทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT หรือกองทรัสต์) และกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ (กอง 1) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ REIT หรือกอง 1 เป็นช่องทางในการระดมเงินทุนของผู้ประกอบธุรกิจ ในขณะเดียวกันก็เป็นทางเลือกในการลงทุนสำหรับผู้ลงทุน ซึ่งที่ผ่านมามีการจัดตั้ง REIT หรือกอง 1 ที่นำเงินไปลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภทโรงแรม แต่เนื่องจากมีข้อกำหนดห้าม REIT หรือกอง 1 ประกอบธุรกิจโรงแรมเอง จึงต้องให้ผู้ประกอบกิจการโรงแรมเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่อประกอบกิจการโรงแรม โดยกำหนดค่าเช่าใน 2 ลักษณะ ได้แก่
(1) มีเฉพาะค่าเช่าคงที่ โดยไม่มีค่าเช่าที่อ้างอิงผลประกอบการของผู้เช่า
(2) กำหนดค่าเช่าเป็น 2 ส่วน คือ ค่าเช่าคงที่ และค่าเช่าอ้างอิงกับผลประกอบการ ของโรงแรม เช่น (ก) กำหนดเป็นอัตรา (%) ของรายได้จากกิจการโรงแรมหักด้วยค่าใช้จ่าย เงินสำรองซ่อมแซมโรงแรมและค่าเช่าคงที่ หรือ (ข) กำหนดเป็นอัตรา (%) ของกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่าย ภาษีและค่าเสื่อมราคา (EBITDA) เป็นต้น
ทั้งนี้ REIT หรือกอง 1 ที่ลงทุนในโรงแรมส่วนใหญ่จะกำหนดโครงสร้างค่าเช่าแบบ (2) กรณีดังกล่าวบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งเป็นผู้ประกอบกิจการโรงแรมสามารถนำค่าเช่าที่อ้างอิงจากรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายมาเป็นรายจ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคลได้ไม่เป็นการต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี (19) แห่งประมวลรัษฎากร ใช่หรือไม่ อย่างไร
กรณีตามข้อเท็จจริง ค่าเช่าผันแปรที่อิงกับผลประกอบการของโรงแรมตาม (2) แม้การกำหนดรายจ่ายค่าเช่าดังกล่าวจะมิได้กำหนดจากกำไรสุทธิของผู้ประกอบกิจการโรงแรมแต่เป็นการกำหนดให้ผลกำไรในรอบระยะเวลาบัญชีเป็นฐานสำหรับการจ่ายค่าเช่า เข้าลักษณะ เป็นรายจ่ายต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี (19) แห่งประมวลรัษฎากร ผู้ประกอบกิจการโรงแรมจึงไม่มีสิทธินำรายจ่ายดังกล่าวมาคำนวณกำไรสุทธิได้