กค 0702/5433
23 กันยายน 2567
มาตรา 39 มาตรา 52 มาตรา 66 วรรคสอง มาตรา 69 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร และประกาศกระทรวงการคลังฯ ลงวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2544
-
สำนักงานคณะกรรมการ ข. ทำสัญญาว่าจ้างบริษัทต่างประเทศ (A) (สัญญาที่ปรึกษาฯ) เพื่อให้คำปรึกษาสำหรับโครงการพัฒนากำลังคนด้านวิศวกรรมศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม สนับสนุนการลงทุน และเพิ่มขีดความสามารถภาคอุตสาหกรรมในประเทศและภูมิภาค (โครงการฯ) โดย A มีหน้าที่ดำเนินการ 5 ด้าน ได้แก่ (1) สนับสนุนการบริหารจัดการโครงการ (2) สนับสนุนการบริหารจัดการเงินกู้ (3) สนับสนุน และช่วยเหลือในการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (4) การดำเนินงานด้านการเชื่อมโยงอุตสาหกรรม และ (5) สนับสนุนการดำเนินการจ้างผู้เชี่ยวชาญการสอนภาษาต่างประเทศ
ต่อมา สำนักงานปลัดกระทรวง ก. สำนักงานคณะกรรมการ ข. และ A ได้ร่วมกันทำบันทึกการแก้ไขสัญญาแนบท้ายสัญญาที่ปรึกษาฯ เพื่อให้สำนักงานปลัดกระทรวง ก. เป็นผู้ว่าจ้างร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการ ข. โดยสำนักงานปลัดกระทรวง ก. มีหน้าที่ติดตามการดำเนินงานตั้งแต่วันที่มีการลงนาม ในเอกสารแนบท้ายสัญญา และเบิกจ่ายค่าตอบแทนของที่ปรึกษาที่เกิดขึ้นภายใต้สัญญาที่ปรึกษาฯ ภายหลังจากวันที่แก้ไขสัญญา
สำนักงานปลัดกระทรวง ก. ขอหารือว่า กรณีการจ่ายเงินค่าตอบแทนที่ปรึกษาตามสัญญาที่ปรึกษาฯ ให้กับ A ซึ่งเป็นนิติบุคคลต่างประเทศที่ประกอบกิจการในประเทศไทย มีสถานประกอบการถาวร ตามอนุสัญญาภาษีซ้อน จะอยู่ในบังคับต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายหรือไม่ อัตราเท่าใด และหน่วยงานใดจะเป็นผู้รับผิดชอบในการหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายของ A
1. กรณีที่ A เป็นองค์กรที่จัดตั้งขึ้นและมีฐานะเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายของต่างประเทศประเภทองค์กรไม่แสวงหากำไร แต่เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่า A ได้ทำสัญญาที่ปรึกษาฯ กับ สำนักงานคณะกรรมการ ข. และสำนักงานปลัดกระทรวง ก. เพื่อบริการให้คำปรึกษาสำหรับโครงการฯ โดยมีการเรียกเก็บเงินค่าตอบแทน การให้บริการให้คำปรึกษาที่ A กระทำจึงเข้าลักษณะเป็นกิจการซึ่งดำเนินการเป็นทางค้าหรือหากำไร โดยนิติบุคคลอื่นที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศ A ถือเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร เมื่อ A มีสำนักงานเพื่อประกอบธุรกิจในประเทศไทยและมีรายได้จากการให้บริการ ตามสัญญาที่ปรึกษาฯ A จึงมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลจากกำไรสุทธิจากกิจการหรือเนื่องจากกิจการ ที่ได้กระทำในประเทศไทยตามมาตรา 66 วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร
2. กรณีที่สำนักงานปลัดกระทรวง ก. ได้เข้าร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการ ข. ทำสัญญาจ้าง A เพื่อทำหน้าที่ปรึกษาสำหรับโครงการฯ โดยตามบันทึกการแก้ไขสัญญาแนบท้ายสัญญาที่ปรึกษาฯ ได้กำหนดให้สำนักงานปลัดกระทรวง ก. เป็นผู้จ่ายค่าตอบแทนที่ปรึกษาให้แก่ A ภายหลังวันที่แก้ไขสัญญา สำนักงานปลัดกระทรวง ก. ซึ่งเป็นหน่วยงานราชการและเป็นผู้จ่ายเงินได้พึงประเมินให้แก่ A มีหน้าที่ต้องหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายสำหรับค่าตอบแทนที่ปรึกษาที่ได้จ่ายภายหลังวันที่แก้ไขสัญญาในอัตราร้อยละ 1 ตามมาตรา 69 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร และต้องนำส่งภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่ายดังกล่าวภายใน 7 วัน นับแต่วันสิ้นเดือนของ เดือนที่จ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา 52 แห่งประมวลรัษฎากร และประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ขยายกำหนดเวลาการนำส่งภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย การนำส่งภาษีเงินได้ การนำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม และการยื่นรายการ ลงวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2544