กค 0706(กม.08)/314
12 กุมภาพันธ์ 2550
มาตรา 77/1(8),(9) มาตรา 77/2 มาตรา 78/1(1)(ก) และคำสั่งกรมสรรพากร ที่ ท.ป.4/2528ฯ
70/34787
กิจการร่วมค้า K ประกอบกิจการออกแบบและสร้างข่ายสายโทรศัพท์ ได้ทำสัญญารับเหมาช่วง
กับบริษัท ม. จำกัด ซึ่งเป็นผู้ประมูลงานจากบริษัท P สำหรับโครงการให้บริการโทรศัพท์ขั้นพื้นฐาน
จำนวน 2.6 ล้านเลขหมายขององค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทย (ปัจจุบันองค์การโทรศัพท์แห่ง
ประเทศไทยได้แปรรูปเป็น บริษัท T ต่อมาบริษัท P ไม่สามารถชำระหนี้ได้ จึงได้ดำเนินการปรับปรุง
โครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้ (บริษัท ม.) และเจ้าหนี้ตกลงรับชำระหนี้ จำนวนร้อยละ 40 ของหนี้สินทั้งหมด
ส่วนหนี้คงค้างอีกร้อยละ 60 จะชำระในอีก 14 ปีข้างหน้า โดยบริษัท P จะออกเอกสารการผ่อนชำระหนี้
ให้แก่เจ้าหนี้ ซึ่งบริษัท ม. ได้ปฏิบัติต่อกิจการร่วมค้าฯ ในทำนองเดียวกัน นอกจากนี้ได้มีการตกลงแปลงหนี้
ที่เหลือร้อยละ 60 จากเงินบาทเป็นเงินเยน และต่อมาในปี 2545 M (ซึ่งเป็นบริษัทผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัท ม.)
ได้ตกลงยินยอมค้ำประกันหนี้ที่จะต้องชำระร้อยละ 60 ของยอดหนี้คงค้างทั้งหมด ถ้าบริษัท P ไม่จ่ายหนี้ให้แก่
บริษัท ม. ตามสัญญาในปี 2557 กิจการร่วมค้าฯ จึงขอทราบว่า
1. กรณีกิจการร่วมค้าฯ ประสงค์จะขายสิทธิเรียกร้องในหนี้ค่าจ้างคงค้างทั้งหมดให้แก่ N (ซึ่งเป็นผู้ถือ
หุ้นใหญ่ในกิจการร่วมค้าฯ) ซึ่งเป็นบริษัทในต่างประเทศ เพื่อกิจการร่วมค้าฯ จะดำเนินการปิดกิจการนั้น
เมื่อกิจการร่วมค้าฯ ได้รับเงินได้จากการโอนสิทธิเรียกร้องจะมีภาระภาษีอย่างไร และต้องออกใบกำกับภาษี
และใบเสร็จรับเงินในการขายลูกหนี้ให้แก่ N หรือไม่
2.กรณีกิจการร่วมค้าฯ ประสงค์จะขายลูกหนี้ซึ่งเกิดจากการรับเหมาช่วงงาน เพื่อกิจการร่วมค้าฯ
จะดำเนินการปิดกิจการนั้น ต้องออกใบกำกับภาษีและใบเสร็จรับเงินในการขายลูกหนี้ให้แก่บริษัท ม ก่อน
หรือไม่ และกรณีดังกล่าวจะมีภาระภาษีในเรื่องภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย หรือไม่
3.กรณีเมื่อครบกำหนดในปี 2557 M ต้องจ่ายเงินชำระหนี้ให้แก่ N การนำส่งเงินออกไปต่างประเทศ
จะมีภาระภาษีอย่างไร
1. กรณีกิจการร่วมค้าฯ ขายสิทธิเรียกร้องในหนี้ค่าจ้างให้แก่ N ซึ่งเป็นบริษัทต่างประเทศ ถือเป็น
การโอนสิทธิเรียกร้องในหนี้ค่าบริการให้แก่บุคคลภายนอกตามมาตรา 303 และมาตรา 306 แห่งประมวล
กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ไม่เข้าลักษณะเป็นการขายสินค้าตามมาตรา 77/1(8) และ (9) แห่งประมวลรัษฎากร
จึงไม่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 77/2 แห่งประมวลรัษฎากร
2.กรณีกิจการร่วมค้าฯ ประสงค์จะเลิกกิจการ กิจการร่วมค้าฯ จำต้องออกใบกำกับภาษีที่เกิดจากการ
รับเหมาช่วงให้แก่บริษัท ม. เนื่องจากกิจการร่วมค้าฯ มีฐานะเป็นผู้ให้บริการซึ่งมีหน้าที่ต้องเสียภาษี
มูลค่าเพิ่ม เมื่อความรับผิดในการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการให้บริการเกิดขึ้น ทั้งนี้ ตามมาตรา 77/2(1)
และมาตรา 78/1(1)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร
3.กรณีเมื่อครบกำหนดชำระหนี้ในปี พ. ศ. 2557 M ต้องชำระหนี้ค่าจ้างทำของในฐานะเป็น
ผู้ค้ำประกัน โดยเป็นการนำส่งเงินไปต่างประเทศให้แก่ N เข้าลักษณะตัวแทนจ่ายเงินได้พึงประเมิน
แทนตัวการ ถือว่า เป็นการกระทำแทนลูกหนี้ และการโอนขายลูกหนี้ค่าบริการไม่ทำให้ความรับผิดตาม
ประมวลรัษฎากรเปลี่ยนแปลงไป M มีหน้าที่ต้องหักภาษี ณ ที่จ่ายและออกหนังสือรับรองการหักภาษี
ณ ที่จ่าย แทนตัวการ ในอัตราร้อยละ 3.0 ตามข้อ 8 ของคำสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป. 4/2528ฯ ลงวันที่ 26
กันยายน พ. ศ. 2528