views

ภาระภาษี กรณีการโอนครุภัณฑ์ โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง

วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2555
เลขที่หนังสือ

กค 0702/1098

วันที่

6 กุมภาพันธ์ 2555

ข้อกฎหมาย

มาตรา 39 มาตรา 77/1(8)(9) มาตรา 77/2 มาตรา 91/1 มาตรา 91/2(6) มาตรา 103 มาตรา 104 และมาตรา 121 แห่งประมวลรัษฎากร

เลขตู้

75/38019

ข้อหารือ

          สถาบันฯ ขอทราบภาระภาษี กรณีการโอนครุภัณฑ์ โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง สรุปได้ดังนี้

          สถาบันฯ เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ตั้งแต่วันที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2535 ประกอบกิจการประเภท บริการให้คำปรึกษาทางธุรกิจและการจัดการ ระหว่างปี พ.ศ. 2547 - 2551 รัฐบาลมีนโยบายให้ดำเนินการโครงการหนึ่งอำเภอหนึ่งปุ๋ย (โครงการฯ ) โดยสถาบันฯ ได้มีส่วนร่วมกับโครงการฯ ดังกล่าว คณะรัฐมนตรีในฐานะเป็นผู้ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตปุ๋ยอินทรีย์ ปุ๋ยอินทรีย์เคมีและปุ๋ยชีวภาพให้แก่กลุ่มเกษตรกรโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ สถาบันฯ ไม่มีรายได้จากการดำเนินการตามโครงการฯ แต่อย่างใด

          สถาบันฯ มีความประสงค์ที่จะทำการโอนครุภัณฑ์ โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างอันเป็นทรัพย์สินที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการตามโครงการฯ ดังกล่าว รวมทั้งสิ้น 317 แห่ง ให้แก่หน่วยงานต่างๆ อันประกอบด้วย องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น มหาวิทยาลัยของรัฐ และสหกรณ์เพื่อการเกษตร ซึ่งการโอนครุภัณฑ์เป็นไปตามความในข้อ 141 (3) ของข้อบังคับสถาบันฯ ส่วนการโอนโรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างเป็นไปตามความใน มาตรา 7 (1) แห่งพระราชบัญญัติสถาบันฯ ซึ่งกำหนดให้การโอนทรัพย์สินในส่วนที่เป็นอสังหาริมทรัพย์จะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อน

          สถาบันฯ จึงขอทราบว่า

          (1) กรณีสถาบันฯ จะทำการโอนครุภัณฑ์ โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างให้กับองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น มหาวิทยาลัยของรัฐ และสหกรณ์เพื่อการเกษตร จะมีภาระภาษีหรือไม่ อย่างไร

          (2) ถ้ากรณีสถาบันฯ มีภาระภาษีตาม (1) และต้องการที่จะให้มีการยกเว้นภาระภาษีดังกล่าวจะต้องดำเนินการอย่างไร

แนววินิจฉัย

          กรณีการโอนครุภัณฑ์ โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง อันเป็นทรัพย์สินที่เกิดขึ้นจากการดำเนินการตามโครงการฯ ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาล ให้แก่ หน่วยงานต่างๆ ตามข้อเท็จจริงที่กล่าวข้างต้นมีภาระภาษีตามประมวลรัษฎากร ดังนี้

          1. ภาษีเงินได้นิติบุคคล

               สถาบันฯ มีฐานะเป็นนิติบุคคลตามมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติสถาบันฯ ไม่เข้าลักษณะเป็นบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร สถาบันฯ จึงไม่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลแต่อย่างใด

          2. ภาษีมูลค่าเพิ่ม

               2.1 กรณีโอนครุภัณฑ์หรือทรัพย์สินที่มีไว้ใช้เฉพาะในการประกอบกิจการที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ทั้งนี้ ไม่ว่า จะมีประโยชน์ตอบแทนหรือไม่ก็ตาม เข้าลักษณะเป็นการขายสินค้าของผู้ประกอบการจดทะเบียน อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 77/1 (8) มาตรา 77/1 (9) และมาตรา 77/2 (1) แห่งประมวลรัษฎากร

               2.2 กรณีโอนครุภัณฑ์หรือทรัพย์สินที่มีไว้ใช้เฉพาะในการประกอบกิจการที่ไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ทั้งนี้ ไม่ว่าจะมีประโยชน์ตอบแทนหรือไม่ก็ตาม ไม่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 77/2 แห่งประมวลรัษฎากร

               2.3 กรณีโอนครุภัณฑ์หรือทรัพย์สินที่มีไว้ใช้ร่วมกันในการประกอบกิจการที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มและไม่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม ทั้งนี้ ไม่ว่าจะมีประโยชน์ตอบแทนหรือไม่ก็ตามเข้าลักษณะเป็นการขายสินค้าของผู้ประกอบการจดทะเบียน อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 77/1 (8) มาตรา 77/1 (9) และมาตรา 77/2 (1) แห่งประมวลรัษฎากร

          3. ภาษีธุรกิจเฉพาะ

          กรณีการโอนอสังหาริมทรัพย์เฉพาะที่ต้องจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมและเป็นอสังหาริมทรัพย์ที่มีไว้ในการประกอบกิจการเฉพาะของนิติบุคคลตามมาตรา 77/1 และมาตรา 91/1 วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร ไม่ว่าจะมีประโยชน์ตอบแทนหรือไม่ ถือเป็นการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไร อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีธุรกิจเฉพาะตามมาตรา 91/2 (6) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับมาตรา 4 (5) แห่งพระราชกฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการขายอสังหาริมทรัพย์เป็นทางค้าหรือหากำไร (ฉบับที่ 342) พ.ศ. 2541

          4. อากรแสตมป์

               กรณีการโอนอสังหาริมทรัพย์โดยไม่มีประโยชน์ตอบแทน บันทึกหรือหนังสือใดๆ ที่ผู้รับโอนได้ออกเป็นหลักฐานแสดงว่าได้รับโอนอสังหาริมทรัพย์เข้าลักษณะเป็น "ใบรับ" ตามมาตรา 103 แห่งประมวลรัษฎากร เมื่อนิติกรรมที่เป็นเหตุให้ออกใบรับนั้นมีการจดทะเบียนตามกฎหมาย ผู้ออกใบรับต้องปิดแสตมป์บริบูรณ์ตามมาตรา 104 แห่งประมวลรัษฎากร และตามลักษณะแห่งตราสาร 28 . (ข) ใบรับแห่งบัญชีอัตราอากรแสตมป์ อย่างไรก็ดีอาจมีกรณีที่ยกเว้นไม่ต้องเสียอากร ดังนี้

               4.1 การยกเว้นไม่ต้องเสียอากร หากฝ่ายที่ต้องเสียอากรเป็นรัฐบาล พนักงานผู้กระทำงานของรัฐบาลโดยหน้าที่ บุคคลผู้กระทำการในนามของรัฐบาล องค์การบริหารราชการส่วนท้องถิ่น สภากาชาดไทย วัดวาอาราม และองค์การศาสนาใดๆ ในราชอาณาจักรซึ่งเป็นนิติบุคคล ยกเว้นองค์การของ รัฐบาลที่ใช้ทุนหรือทุนหมุนเวียนเพื่อประกอบการพาณิชย์หรือการพาณิชย์ซึ่งองค์การบริหารราชการส่วนท้องถิ่นเป็นผู้จัดทำ ตามมาตรา 121 แห่งประมวลรัษฎากร

               4.2 ใบรับ สำหรับจำนวนเงินที่ผู้รับต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มหรือภาษีธุรกิจเฉพาะ ซึ่งกำหนดยกเว้นไว้ตามลักษณะแห่งตราสาร 28. วรรคสอง แห่งบัญชีอัตราอากรแสตมป์

          5. การยกเว้นภาษีอากร ไม่มีอำนาจของกรมสรรพากรที่จะยกเว้นภาษีอากรให้ได้แต่อย่างใด เว้นแต่จะมีกำหนดไว้ในประมวลรัษฎากร หรือตราเป็นพระราชกฤษฎีกา โดยอาศัยอำนาจ ตามบทบัญญัติแห่งประมวลรัษฎากร