ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีกรรมการบริษัทกู้เงินธนาคาร

489 Views

เลขที่หนังสือ

กค 0706/3461

วันที่

28 เมษายน 2549

เลขตู้

69/34138

ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

มาตรา 65 ตรี (5) แห่งประมวลรัษฎากร

ข้อหารือ

     บริษัทฯ ได้กู้เงินจากธนาคาร โดยใช้ชื่อกรรมการบริษัทฯ เป็นผู้กู้ สรุปข้อเท็จจริงได้
ดังนี้
      นาย ก. และนาย ธ. ซึ่งเป็นกรรมการบริษัทฯ ได้กู้เงินจากธนาคารโดยนำที่ดินพร้อม
สิ่งปลูกสร้าง ของนาย ก. จดทะเบียนจำนองการกู้ยืมเงิน และได้นำเงินที่กู้ยืมเข้าบัญชีเงินฝาก
ธนาคารของบริษัทฯ เพื่อปลูกสร้างอาคารบนที่ดินโฉนดเลขที่ดังกล่าว ซึ่งบริษัทฯ ได้ทำสัญญา
เช่าที่ดินจากนาย ก. โดยใบอนุญาตก่อสร้างเป็นชื่อของบริษัทฯ การที่ใช้ชื่อกรรมการเป็น
ผู้กู้ยืมเงินดังกล่าวเนื่องจากบริษัทฯ จัดตั้งขึ้นใหม่ฐานะทางการเงินยังไม่เป็นที่น่าเชื่อถือของ
ธนาคารจึงต้องใช้ชื่อของกรรมการบริษัทฯ กู้เงินไปก่อน
      บริษัทฯ จึงขอทราบว่า
      (1) บริษัทฯ มีสิทธินำใบรับค่าดอกเบี้ยนำมาเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ ได้หรือไม่
อย่างไร (หากมีเอกสารอ้างอิงถึงการนำเงินกู้มาใช้เป็นค่าก่อสร้างอาคาร เช่น รายละเอียด
การอนุมัติเงินกู้จากทางธนาคารที่ระบุงบที่ใช้ในแต่ละขั้นตอนของการก่อสร้างอาคารของบริษัทฯ
รายงานการประชุมการกู้เงินของกรรมการบริษัทฯ หนังสือจากธนาคารที่ระบุถึงการที่นิติบุคคล
กู้ร่วมกับบุคคลธรรมดาไม่ได้ เป็นต้น)
      (2) ใบรับค่าธรรมเนียม ค่าอากรในการจดจำนองจากกรมที่ดิน กรณีใบรับใช้ชื่อเดียวกับ
ใบรับตาม (1) สามารถนำมาหักเป็นค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ ได้หรือไม

แนววินิจฉัย

     1. กรณีค่าดอกเบี้ยเงินกู้ยืม ตามข้อเท็จจริงกรรมการของบริษัทฯ เป็นผู้กู้ยืมเงิน
จากธนาคารเพื่อนำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างและตกแต่งอาคาร ใช้เป็นสถานประกอบ
กิจการของบริษัทฯ โดยการปลูกสร้างอาคารดังกล่าวเป็นการปลูกสร้างอาคารลงบนที่ดินที่
บริษัทฯ ได้เช่ามาจากกรรมการฯ ซึ่งบริษัทฯ เป็นผู้ขออนุญาตปลูกสร้างอาคารดังกล่าวและ
เงินที่กู้มาจากธนาคารก็ได้มีการนำเข้าบัญชีเงินฝากธนาคารในนามของบริษัทฯ และบริษัทฯ
ได้รับรองว่า เป็นการกู้ยืมในนามของบริษัทฯ ตามบันทึกรายงานการประชุมของผู้ถือหุ้น
ดังนั้น บริษัทฯ จึงเป็นผู้ได้รับประโยชน์จากเงินกู้ยืมโดยตรง ซึ่งบริษัทฯ ต้องร่วมรับผิด
ในการกู้ยืมเงินนั้นด้วย ดังนั้น ดอกเบี้ยที่เกิดจากเงินกู้ยืมดังกล่าวย่อมเป็นรายจ่ายของบริษัทฯ
โดยตรง แต่เนื่องจากได้จ่ายไปในระหว่างการก่อสร้างจนถึงการก่อสร้างแล้วเสร็จหรืออาคาร
ใช้การได้ตามสภาพ จึงเป็นรายจ่ายอันมีลักษณะเป็นการลงทุนตามมาตรา 65 ตรี (5) แห่ง
ประมวลรัษฎากร จะนำไปหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิไม่ได้ แต่มีสิทธินำไปรวม
คำนวณเป็นมูลค่าอาคาร เพื่อหักค่าสึกหรอและค่าเสื่อมราคาตามมาตรา 65 ทวิ (2) แห่ง
ประมวลรัษฎากร ประกอบกับพระราชกฤษฎีกา (ฉบับที่ 145) พ.ศ. 2527
      สำหรับดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต้องจ่ายไปหลังจากการก่อสร้างแล้วเสร็จหรืออาคารนั้นใช้การได้
ตามสภาพ บริษัทฯ ถือเป็นรายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิของแต่ละรอบระยะเวลาบัญชีที่พึง
ต้องจ่ายได้
      2.กรณีค่าธรรมเนียม และค่าอากรในการจดทะเบียนจำนอง ตามข้อเท็จจริงเป็นกรณี
กรรมการนำที่ดินของตนไปจดทะเบียนจำนอง ซึ่งเป็นการค้ำประกันการกู้ยืมเงินเพื่อปลูกสร้าง
อาคารใช้เป็นสถานประกอบการของบริษัทฯ ค่าธรรมเนียมและค่าอากรในการจดทะเบียนจำนอง
ดังกล่าว หากปรากฏหลักฐานเป็นค่าใช้จ่ายของกรรมการบริษัทฯ ผู้จดทะเบียนจำนอง ค่าใช้จ่าย
ดังกล่าวไม่ถือเป็นรายจ่ายเพื่อหากำไรหรือเพื่อกิจการโดยเฉพาะ บริษัทฯ ไม่อาจนำมาถือเป็น
รายจ่ายในการคำนวณกำไรสุทธิหรือขาดทุนสุทธิไม่ได้ ต้องห้ามตามมาตรา 65 ตรี (13) แห่ง
ประมวลรัษฎากร