ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา กรณีเบี้ยประกันชีวิต

475 Views

เลขที่หนังสือ

กค 0702/2871

วันที่

2 มิถุนายน 2551

เลขตู้

71/35898

ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

มาตรา 47(1)(ง) แห่งประมวลรัษฎากร และกฎกระทรวง ฉบับที่ 126 (พ.ศ. 2509)ฯ

ข้อหารือ

          บุตรชายของนาง ก. ได้ซื้อประกันชีวิต ให้กับนาง ก. ระยะเวลาเอาประกัน 16 ปี โดยบุตรชายของนาง ก. เป็น ผู้ชำระเบี้ยประกัน นาง ก. เป็นผู้เอาประกัน และเป็นผู้มีชื่ออยู่ในกรมธรรม์ เมื่อนาง ก. ได้ยื่นแบบแสดงรายการชำระ ภาษีโดยใช้สิทธิในการหักลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิตเป็นจำนวนเงิน 22,570 บาท เจ้าหน้าที่ แจ้งว่า " เบี้ยประกันชีวิต ที่นาง ก. มีสิทธิเอามาลดหย่อนได้ ผู้เอาประกันกับผู้ชำระเบี้ยประกันต้องเป็นบุคคลคนเดียวกัน" นาง ก. จึงขอทราบว่า บุคคลใดเป็นผู้มีสิทธิหักลดหย่อนเบี้ยประกันชีวิตดังกล่าวได้

แนววินิจฉัย


          การหักลดหย่อนภาษีสำหรับเบี้ยประกันชีวิต และการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้เท่าที่ผู้มีเงินได้จ่ายเป็น เบี้ยประกันต้องเป็นไปตามกฎหมาย ดังนี้

          1. ตามมาตรา 47(1)(ง) แห่งประมวลรัษฎากร กำหนดว่า "เบี้ยประกันภัยที่ผู้มีเงินได้จ่ายไปในปีภาษีสำหรับ การประกันชีวิตของผู้มีเงินได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 10,000 บาท ทั้งนี้ เฉพาะในกรณีที่กรมธรรม์ประกันชีวิต มีกำหนดเวลาตั้งแต่สิบปีขึ้นไป และการประกันชีวิตนั้นได้เอาประกันไว้กับผู้รับประกันภัยที่ประกอบกิจการประกันชีวิต ในราชอาณาจักร"

          2. ตามข้อ 2 (61) ของกฎกระทรวงฉบับที่ 126 (พ.ศ. 2509) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วย การยกเว้นรัษฎากร ลงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2509 กำหนดว่า "เงินได้เท่าที่ ผู้มีเงินได้จ่ายเป็นเบี้ยประกันภัย ในปีภาษีสำหรับการประกันชีวิตของผู้มีเงินได้ตามจำนวนที่จ่ายจริงเฉพาะส่วนที่เกิน 10,000 บาท แต่ไม่เกิน 40,000 บาท เฉพาะในกรณีที่กรมธรรม์ประกันชีวิตมีกำหนดเวลาตั้งแต่สิบปีขึ้นไป และการประกันชีวิตนั้นได้เอาประกันไว้กับ ผู้รับประกันภัยที่ประกอบกิจการประกันชีวิตในราชอาณาจักร ทั้งนี้ สำหรับเบี้ยประกันภัยที่ได้จ่ายตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2545 เป็นต้นไป และให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่อธิบดีกำหนด" ตามกฎหมายดังกล่าว การได้รับลดหย่อนภาษีสำหรับเบี้ยประกันชีวิตและยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นเบี้ยประกันชีวิต ต้องประกอบด้วยเงื่อนไขดังนี้

          1. ต้องเป็นเบี้ยประกันภัยที่ผู้มีเงินได้จ่ายไปในปีภาษี สำหรับการประกันชีวิตของผู้มีเงินได้

          2. กรมธรรม์ประกันชีวิตมีกำหนดระยะเวลาตั้งแต่สิบปีขึ้นไป

          3. ต้องประกันเอาไว้กับผู้รับประกันภัยที่ประกอบกิจการประกันชีวิตในราชอาณาจักร

          ดังนั้น เบี้ยประกันชีวิตที่นาง ก. ซึ่งเป็นผู้มีเงินได้จะมีสิทธินำมาหักลดหย่อนภาษี และได้รับสิทธิยกเว้นภาษี เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าเบี้ยประกันชีวิตตามกฎหมายดังกล่าว ต้องเป็นเบี้ยประกันชีวิตที่นาง ก. ซึ่งเป็นผู้มีเงินได้จ่ายไป ในปีภาษีสำหรับประกันชีวิตของผู้มีเงินได้เอง