ภาษีเงินได้นิติบุคคล กรณีการจำหน่ายหนี้สูญ

393 Views

เลขที่หนังสือ

กค 0811/6769

วันที่

10 กรกฎาคม 2544

เลขตู้

64/30671

ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

มาตรา 65 ทวิ (9), กฎกระทรวง ฉบับที่ 186 (พ.ศ. 2534)ฯ

ข้อหารือ

     บริษัท ก. และบริษัท ข. ประกอบการรับจ้างรักษาความปลอดภัย และรับจ้างทำความสะอาด
ให้บริษัท ค. เป็นจำนวนเงิน 2,798,007 บาท พร้อมดอกเบี้ย 2,119,365 บาท ในวันที่ 26
มิถุนายน 2541 บริษัทฯ ซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาทั้งสองรายได้นำเจ้าพนักงานบังคับคดีไป
ยึดทรัพย์สินของลูกหนี้ ปรากฏว่าเมื่อไปที่สำนักงานแห่งใหญ่ของลูกหนี้แล้วไม่พบตัวลูกหนี้ และทรัพย์สินของ
ลูกหนี้แต่อย่างใด เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงได้งดยึดลงนัด 2 เดือน รอโจทก์ (เจ้าหนี้) แถลง เมื่อครบ
กำหนด 2 เดือน ผู้รับมอบอำนาจของเจ้าหนี้ทั้งสองรายก็มิได้แถลง และมิได้ดำเนินการจำหน่ายหนี้สูญ
จากบัญชีลูกหนี้แต่อย่างใด เวลาล่วงเลยมาจนกระทั่งเจ้าหนี้ได้ทราบว่าลูกหนี้ได้ถูกบุคคลอื่นฟ้องคดี
ล้มละลาย และมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาดลูกหนี้ ตั้งแต่วันที่ 6 ตุลาคม 2542 (ประกาศราชกิจจานุเบกษา
วันที่ 9 พฤศจิกายน 2542) แต่ขณะที่เจ้าหนี้ทั้งสองรายข้างต้นทราบนั้นได้พ้นกำหนดระยะเวลายื่นคำร้อง
ขอรับชำระหนี้คดีล้มละลายไปแล้ว ต่อมาวันที่ 13 กรกฎาคม 2543 เจ้าหนี้ทั้งสองรายได้แถลงต่อ
เจ้าพนักงานบังคับคดีว่าลูกหนี้ไม่มีทรัพย์สินใดที่จะบังคับชำระหนี้ให้แก่โจทก์ได้อีกและขอถอนบังคับคดี และ
เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2543 เจ้าพนักงานบังคับคดีได้รายงานต่อศาล และถอนการบังคับคดี ซึ่ง
นางสาวจินตนาฯ เห็นว่า หนี้ของลูกหนี้มีจำนวนเกิน 500,000 บาท โดยเจ้าหนี้ได้ดำเนินการฟ้องลูกหนี้
ในคดีแพ่ง และได้มีคำบังคับคดีหรือคำสั่งศาลแล้ว แต่ลูกหนี้ไม่มีทรัพย์สินใด ๆ จะชำระหนี้ได้ เข้าลักษณะ
ตามข้อ 4(2) ของกฎกระทรวง ฉบับที่ 186 (พ.ศ. 2534)ฯ ดังนั้น เจ้าหนี้จึงสามารถนำหนี้ของลูกหนี้
รายนี้จำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ได้ตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน 2541 ซึ่งเป็นวันที่ได้มีการนำ
เจ้าพนักงานบังคับคดีไปยึดทรัพย์สินของลูกหนี้แล้วไม่พบทรัพย์สินของลูกหนี้ ทั้งนี้ แม้ว่าเจ้าหนี้มิได้
จำหน่ายหนี้สูญในรอบระยะเวลาบัญชี และเจ้าหนี้มิได้ยื่นคำร้องขอรับชำระหนี้ของลูกหนี้ซึ่งถูกพิทักษ์ทรัพย์
เด็ดขาดภายในระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดก็ตาม เจ้าหนี้ก็ยังคงมีสิทธิจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้รายนี้
ได้ในรอบระยะเวลาบัญชีปี 2543

แนววินิจฉัย

     บริษัทฯ ทั้ง 2 รายดังกล่าวซึ่งเป็นเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาได้ขอให้ศาลมีคำสั่งตั้ง
เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการยึดหรืออายัดทรัพย์สินของลูกหนี้แล้ว แต่ไม่พบทรัพย์สินของลูกหนี้ ต่อมาใน
วันที่ 13 กรกฎาคม 2543 บริษัทฯ ได้แถลงต่อเจ้าพนักงานบังคับคดีว่า ลูกหนี้ไม่มีทรัพย์สินใดที่จะบังคับ
ชำระหนี้ให้แก่บริษัทฯ ได้ และเจ้าพนักงานบังคับคดีได้รายงานศาล และถอนการบังคับคดีถือว่าบริษัทฯ
ได้ดำเนินการบังคับคดีถึงที่สุดแล้ว บริษัทฯ ย่อมจำหน่ายหนี้สูญจากบัญชีลูกหนี้ และถือเป็นรายจ่ายใน
รอบระยะเวลาบัญชีปี 2543 ได้ ตามข้อ 4(2) และข้อ 7 ของกฎกระทรวง ฉบับที่ 186 (พ.ศ.
2534)ฯ