ภาษีเงินได้และภาษีธุรกิจเฉพาะ กรณีสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรในการปรับปรุง โครงสร้างหนี้ที่มีการฟ้องบังคับหนี้แล้ว

427 Views

เลขที่หนังสือ

กค 0811/8393

วันที่

28 สิงหาคม 2544

เลขตู้

64/30889

ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

พระราชกฤษฎีกา (ฉบับที่ 360) พ.ศ. 2542ฯ

ข้อหารือ

     ท่านและบริษัทฯ เป็นหนี้ธนาคาร โดยธนาคารฯ ได้ฟ้องท่านกับพวก และบริษัทฯกับพวก เป็น
จำเลยต่อศาลแพ่ง ซึ่งผลการพิจารณาในที่สุดเป็นดังนี้
     1. หนี้ของท่าน ศาลได้มีคำพิพากษาให้ท่าน กับพวก ร่วมกันชำระหนี้ให้แก่ธนาคารฯ
     2. หนี้ของบริษัทฯ กับพวก ได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อศาล
     ท่านและบริษัทฯ มีความประสงค์จะปรับปรุงโครงสร้างหนี้กับธนาคารฯ ในกรณี ดังกล่าว หาก
ได้โอนอสังหาริมทรัพย์เพื่อชำระหนี้ จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรหรือไม่

แนววินิจฉัย

     กรณีสถาบันการเงินฟ้องร้องลูกหนี้ต่อศาลเพื่อบังคับชำระหนี้ และศาลได้มีคำพิพากษาบังคับ
ชำระหนี้แล้ว หรือได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อหน้าศาล หากสถาบันการเงินซึ่งเป็นเจ้าหนี้และ
ลูกหนี้ได้ดำเนินการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ดังกล่าวตามหลักเกณฑ์การปรับปรุงโครงสร้างหนี้ของ
สถาบันการเงินที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนด ย่อมได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรตาม
พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 360) พ.ศ.
2542
     ดังนั้น กรณีการโอนอสังหาริมทรัพย์ เพื่อชำระหนี้ให้แก่สถาบันการเงินเจ้าหนี้จากการปรับปรุง
โครงสร้างหนี้ดังกล่าว ย่อมได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากรตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความใน
ประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 360) พ.ศ. 2542 ทั้งนี้ หากเป็นการโอน
อสังหาริมทรัพย์ให้แก่ผู้อื่น ซึ่งมิใช่เจ้าหนี้ที่เป็นสถาบันการเงิน จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีอากร
เฉพาะส่วนที่ไม่เกินกว่าหนี้ที่ค้างชำระอยู่กับสถาบันการเงิน และต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และ
เงื่อนไข ที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรฯ ลงวันที่ 28 ธันวาคม
พ.ศ. 2543