ภาษีเงินได้นิติบุคคล และ ภาษีมูลค่าเพิ่ม กรณีการเรียกเงินประกันความเสียหาย

477 Views

เลขที่หนังสือ

กค 0706/9237

วันที่

8 พฤศจิกายน 2549

เลขตู้

69/34632

ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

มาตรา 65 มาตรา 77/1(8) มาตรา 79 มาตรา 80 และมาตรา 82/4 แห่งประมวลรัษฎากร

ข้อหารือ

      บริษัทฯ ประกอบกิจการจำหน่ายอุปกรณ์รับชมทีวี โดยมีเงื่อนไข ดังนี้

      1. ผู้จองอุปกรณ์รับชมทีวีมีสิทธินำอุปกรณ์รับชมทีวีไปทดลองรับชมฟรีเป็นระยะเวลา 1 ปี
นับแต่วันที่เปิดสัญญาณรับชมรายการ โดยผู้จองฯ ต้องวางเงินประกันความเสียหายของอุปกรณ์

      2. ผู้จองฯ มีสิทธิรับชมรายการทีวีในระหว่างการทดลองรับชมทีวีตามจำนวนที่กำหนด

      3. กรณีผู้จองฯ มีเสาอากาศ MMDS ซึ่งเป็นอุปกรณ์รับชมทีวีเดิมและสามารถรับชมรายการทีวี
ได้อยู่แล้ว แต่ต้องการให้บริษัทฯ ย้ายเสาอากาศหรือมีการติดตั้งใหม่ ผู้จองฯ จะต้องจ่ายค่าย้ายหรือ
การติดตั้งแยกต่างหาก

      4. กรณีผู้จองฯ ไม่มีเสาอากาศ MMDS ผู้จองฯ จะเป็นผู้ซื้อเสาอากาศดังกล่าวจากร้านจำหน่าย
ทั่ว ๆ ไปและให้บริษัทฯ ติดตั้ง ผู้จองฯ ต้องจ่ายค่าติดตั้งแยกต่างหาก

      5. กรณีผู้จองฯ คืนอุปกรณ์รับชมทีวีก่อนครบระยะเวลา 1 ปี ผู้จองฯ จะต้องถูกหักเงิน 1,900 บาท
จากเงินประกัน 5,900 บาท เพื่อเป็นค่าเสื่อมราคาอุปกรณ์และค่าบริการอื่น

      6. กรณีครบระยะเวลา 1 ปี นับแต่วันที่ทดลองรับชม ผู้จองฯ ไม่มีสิทธิคืนอุปกรณ์รับชมและ
บริษัทฯ จะไม่คืนเงินประกัน 5,900 บาท

      7. กรณีครบระยะเวลา 1 ปี แล้ว ผู้จองฯ ต้องจ่ายค่าลิขสิทธิ์ในรายการทีวี เดือนละ 300 บาท
โดยมีสิทธิรับชมรายการทีวี จำนวน 16 ช่อง หากผู้จองฯ ไม่ได้จ่ายค่าลิขสิทธิ์ในรายการทีวี ผู้จองฯ
มีสิทธิรับชมรายการทีวี จำนวน 8 ช่อง

      บริษัทฯ มีหน้าที่ต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับเงินประกันความเสียหาย
ดังกล่าวหรือไม่ โดยต้องรับรู้รายได้ในรอบระยะเวลาบัญชีใด

แนววินิจฉัย

       กรณีเงินประกันความเสียหายที่บริษัทฯ ได้รับจากลูกค้าเนื่องจากการจำหน่ายอุปกรณ์รับชมทีวี
ตามข้อเท็จจริง บริษัทฯ ต้องรับรู้รายได้ตามเกณฑ์สิทธิ โดยต้องนำมารวมคำนวณเป็นรายได้ในรอบ
ระยะเวลาบัญชีที่บริษัทฯ ได้รับ หากบริษัทฯ มีการคืนเงินประกันความเสียหายจากการจำหน่าย
อุปกรณ์รับชมทีวี บริษัทฯ มีสิทธินำเงินประกันความเสียหายตามจำนวนที่ได้จ่ายคืนมาถือเป็นรายจ่าย
ในรอบระยะเวลาบัญชีที่บริษัทฯ ได้จ่าย ตามมาตรา 65 แห่งประมวลรัษฎากร

      กรณีบริษัทฯ เป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มมอบอุปกรณ์รับชมทีวีให้ลูกค้าผู้จองฯ
ได้ทดลองใช้งานก่อนซื้อ เมื่อลูกค้าผู้จองฯ พอใจสินค้าดังกล่าว จึงตกลงซื้อขายสินค้าตัวที่มอบนั้น
ถือได้ว่าเป็นการขายตามคำนิยามใน มาตรา 77/1(8) แห่งประมวลรัษฎากร ตั้งแต่วันที่มอบสินค้าให้
ลูกค้าทดลองใช้ บริษัทฯ ต้องนำเงินประกันความเสียหายซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของราคาสินค้ามารวม
คำนวณเป็นมูลค่าของฐานภาษีตามมาตรา 79 แห่งประมวลรัษฎากร และมีหน้าที่เรียกเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม
จากลูกค้าในอัตราร้อยละ 7.0 ตามมาตรา 80 และมาตรา 82/4 แห่งประมวลรัษฎากร