ภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีธุรกิจเฉพาะ กรณีการโอนกิจการบางส่วนให้แก่กัน

671 Views

เลขที่หนังสือ

กค 0702/9754

วันที่

14 พฤศจิกายน 2556

เลขตู้

76/38808

ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 516) พ.ศ. 2554 และประกาศอธิบดีกรมสรรพากร ลงวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2554

ข้อหารือ

          บริษัทฯ ได้หารือเกี่ยวกับภาษีเงินได้นิติบุคคล ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีธุรกิจเฉพาะ กรณีการโอนกิจการบางส่วนให้แก่กัน กรณีบริษัทฯ จะโอนขายทรัพย์สิน ซึ่งได้แก่ อสังหาริมทรัพย์ สังหาริมทรัพย์ และทรัพย์สิน หนี้สินอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติให้แก่บริษัท ท. เพื่อดำเนินธุรกิจท่อส่งก๊าซธรรมชาติโดยมีบริษัทฯ เป็นลูกค้านั้น จะถือว่าเป็นการโอนกิจการบางส่วนที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีตามพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ 516) พ.ศ.2554 หรือไม่ หากบริษัทฯ สามารถทำตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 516) พ.ศ.2554 และประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการโอนกิจการบางส่วนให้แก่กันของบริษัทมหาชนจำกัด หรือบริษัทจำกัด เพื่อยกเว้นรัษฎากร ลงวันที่ 27 กันยายน 2554 ได้ครบถ้วน คือ

               (1) บริษัทฯ จะโอนขายทรัพย์สินให้แก่บริษัท ท. ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นใหม่ โดยมีบริษัทฯ เป็นผู้ถือหุ้นมากกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมด และบริษัทฯ จะยังคงถือหุ้นในบริษัท ท. ต่อไปอีกไม่ต่ำกว่า 6 เดือน นับแต่วันสิ้นรอบระยะเวลาบัญชีที่มีการโอนกิจการบางส่วนให้แก่กัน

               (2) บริษัท ท. จะมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ ณ วันที่มีการรับโอนไม่น้อยกว่าราคาทรัพย์สินสุทธิที่โอนไปจากบริษัทฯ

               (3) บริษัทฯ และบริษัท ท. จะร่วมกันทำหนังสือแจ้งการโอนกิจการและส่งแผนปรับปรุงโครงสร้างองค์กรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพพร้อมกับแสดงรายการทรัพย์สินที่โอน ยื่นต่ออธิบดีกรมสรรพากรก่อนที่จะมีการโอนระหว่างกัน

               (4) บริษัทฯ จะโอนทรัพย์สินให้แก่บริษัท ท. ให้แล้วเสร็จภายในวันสิ้นรอบระยะเวลาบัญชีที่ได้ตกลงโอนกิจการบางส่วนระหว่างกัน

               (5) การโอนที่จะเกิดขึ้น เป็นการโอนทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ซึ่งมิใช่เป็นการขายอันเป็นปกติธุระ และบริษัท ท. จะนำทรัพย์สินดังกล่าวไปดำเนินกิจการท่อส่งก๊าซธรรมชาติเช่นกัน

               (6) บริษัท ท. จะดำเนินการจดทะเบียนเพื่อเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม และจะนำทรัพย์สินที่รับโอนไปใช้ในกิจการที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มโดยตรง

               (7) บริษัทฯ จะไม่โอนทรัพย์สินให้แก่บริษัท ท. โดยไม่มีค่าตอบแทน หรือมีค่าตอบแทนที่ต่ำกว่าราคาตลาดโดยไม่มีเหตุอันสมควร ณ วันที่โอน

               (8) บริษัทฯ และบริษัท ท. จะไม่เป็นลูกหนี้ภาษีอากรค้างของกรมสรรพากรหรือได้มีการทำค้ำประกันหนี้ภาษีอากรไว้แล้ว ณ วันที่โอน

               (9) ผู้สอบบัญชีของบริษัทฯ และบริษัท ท. จะเป็นผู้มีคุณสมบัติตามมาตรา 3 สัตต แห่งประมวลรัษฎากร และเป็นผู้รับรองผลการประกอบกิจการและการเป็นบริษัทในเครือเดียวกันตามข้อ (1) ข้างต้น

แนววินิจฉัย

          หากบริษัทฯ สามารถดำเนินการได้ตามที่แจ้งมา ย่อมถือได้ว่าเป็นการโอนกิจการบางส่วนให้แก่กันของบริษัทมหาชนจำกัด หรือบริษัทจำกัดที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีตามพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 516) พ.ศ. 2554 และประกาศอธิบดีกรมสรรพากรฯ ลงวันที่ 27 กันยายน พ.ศ.2554