ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หัก ณ ที่จ่าย

363 Views

เลขที่หนังสือ

กค 0811/26097

วันที่

4 พฤศจิกายน 2542

เลขตู้

62/28537

ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

มาตรา48(4), มาตรา50(5), พระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 352) พ.ศ. 2542

ข้อหารือ

     นาย ก ได้ไปโอนขายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างที่สำนักงานที่ดิน ปรากฏว่าเจ้าหน้าที่ของ
กรมที่ดินได้เรียกเก็บภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหัก ณ ที่จ่าย เป็นเงิน 48,245 บาท นาย ก ไม่เห็นด้วย
เพราะตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2542 เป็นต้นไป การคำนวณภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หัก ณ ที่จ่าย ต้อง
คำนวณตามหลักเกณฑ์ใหม่ กล่าวคือให้ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินได้ส่วนที่ไม่เกิน
50,000 บาทแรก แต่เพื่อมิให้เกิดความเสียหายต่อผู้ซื้อที่ดิน นาย ก ได้โอนกรรมสิทธิ์ที่ดินและเสียภาษี
ตามที่เจ้าหน้าที่ของกรมที่ดินคำนวณให้ผู้ซื้อไปก่อน นาย ก จึงหารือว่า ภาษีส่วนที่ถูกกรมที่ดินเรียกเก็บ
เกินไปเนื่องจากมิได้รับการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินได้สุทธิส่วนที่ไม่เกิน 50,000
บาทแรก จะได้รับการคืนภาษีให้หรือไม่

แนววินิจฉัย

     การยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้สุทธิจากการคำนวณภาษีเงินได้ เฉพาะเงินได้ส่วนที่
ไม่เกิน 50,000 บาทแรก สำหรับปีภาษีนั้น ซึ่งมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2542 เป็นต้นไป
ตามมาตรา 3 แห่งพระราชกฤษฎีกาฯ (ฉบับที่ 352) พ.ศ. 2542 แต่ตามข้อเท็จจริงเป็นกรณีหัก
ภาษีเงินได้ ณ ที่จ่ายจากการจ่ายเงินได้พึงประเมินให้แก่ผู้รับซึ่งขายอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งต้องคำนวณ
ภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 50(5)(ก) หรือ (ข)แห่งประมวลรัษฎากร แล้วแต่กรณี ดังนี้
     (ก). สำหรับอสังหาริมทรัพย์อันเป็นมรดกหรืออสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับจาก
การให้โดยเสน่หา ให้คำนวณภาษีตามเกณฑ์ในมาตรา 48(4)(ก) แห่งประมวลรัษฎากร เป็นเงินภาษี
ทั้งสิ้นเท่าใด ให้หักเป็นเงินภาษีไว้เท่านั้น
     (ข). สำหรับอสังหาริมทรัพย์ที่ได้มาโดยทางอื่น นอกจาก (ก) ให้หักค่าใช้จ่ายเป็นการ
เหมาตามที่กำหนดโดยพระราชกฤษฎีกา แล้วคำนวณภาษีตามเกณฑ์ในมาตรา 48(4)(ข) แห่ง
ประมวลรัษฎากร เป็นเงินภาษีทั้งสิ้นเท่าใด ให้หักเป็นเงินภาษีไว้เท่านั้น
      ในการคำนวณหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย กรณีจ่ายเงินได้พึงประเมินให้แก่ผู้รับซึ่งขาย
อสังหาริมทรัพย์ดังกล่าวเป็นการคำนวณภาษีเงินได้ตามมาตรา 48(4)(ก) หรือมาตรา 48(4)(ข) แห่ง
ประมวลรัษฎากร ซึ่งมิใช่การคำนวณภาษีเงินได้ตามมาตรา 48(1) แห่งประมวลรัษฎากร จึงไม่มีสิทธิ
ยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้สุทธิเฉพาะส่วนที่ไม่เกิน 50,000 บาทแรกตามพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว
แต่อย่างใด
     อย่างไรก็ดี เมื่อถึงกำหนดยื่นรายการเกี่ยวกับเงินได้พึงประเมินที่นาย ก ได้รับระหว่าง
ปีภาษี พ.ศ.2542 นั้น และนาย ก ได้เลือกเสียภาษีสำหรับเงินได้ที่ได้รับจาก
การขายอสังหาริมทรัพย์อันเป็นมรดกหรือ อสังหาริมทรัพย์ที่ได้มาโดยมิได้มุ่งในทางการค้าหรือหากำไร
โดยนำไปรวมคำนวณภาษีกับเงินได้อย่างอื่น ตามมาตรา 48(1) แห่งประมวลรัษฎากร นาย ก ก็จะได้
รับสิทธิยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินได้สุทธิจากการคำนวณภาษีเงินได้เฉพาะส่วนที่ไม่เกิน 50,000 บาท
แรก ตามพระราชกฤษฎีกาฯ ดังกล่าว