การยกเว้นอากรและภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับการนำเข้าอุปกรณ์และส่วนประกอบของเครื่องจักร
เลขที่หนังสือ
กค 0706/11293
วันที่
22 ธันวาคม 2547
เลขตู้
67/33239
ข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
มาตรา 81(2)(ค)
ข้อหารือ
บริษัทฯ ได้ประกอบธุรกิจผลิตเหล็กแผ่นและเหล็กม้วนชนิดรีดร้อนและเย็น โดยได้รับการ
ส่งเสริมการลงทุนจากคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ในเดือนมิถุนายน 2540 บริษัทฯ ได้นำเข้า
อุปกรณ์และส่วนประกอบของเครื่องจักรเข้ามาบางส่วน มูลค่าประมาณ 4.70 ล้านเหรียญสหรัฐ ในปี
2541 บริษัทฯ ประสบปัญหาเศรษฐกิจจึงได้นำอุปกรณ์และส่วนประกอบของเครื่องจักรดังกล่าวไปฝากไว้ที่
นิคมอุตสาหกรรมส่งออกแหลมฉบังเพื่อเป็นการลดภาระเรื่องภาษีอากร ต่อมาบริษัทฯ ได้ทำเรื่องบริจาค
ให้กับมูลนิธิชัยพัฒนาและขอให้กระทรวงการคลังพิจารณายกเว้นอากรและภาษีมูลค่าเพิ่มในการนำเข้า
อุปกรณ์และส่วนประกอบของเครื่องจักรดังกล่าวด้วย
แนววินิจฉัย
1. การยกเว้นอากรสำหรับของที่บริจาคตามพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530
ภาค 4 ประเภทที่ 11 ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขที่อธิบดีกำหนดโดยความเห็นชอบของรัฐมนตรี
ว่าการกระทรวงการคลัง คือ ประกาศกรมศุลกากรที่ 58/2544 ลงวันที่ 22 ตุลาคม 2544 ได้กำหนด
ไว้ว่า
ข้อ 3 ของที่นำเข้ามาในราชอาณาจักรเพื่อให้แก่ส่วนราชการหรือองค์การสาธารณกุศลจะได้
รับยกเว้นอากรต้องเป็นดังนี้
3.1 ต้องนำเข้าในนามของส่วนราชการ หรือองค์การสาธารณกุศลที่เป็นองค์การหรือสถาน
สาธารณกุศลตามมาตรา 47(7)(ข) แห่งประมวลรัษฎากร และมาตรา 3(4)(ข) แห่งพระราชกฤษฎีกา
ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบับที่ 239) พ.ศ. 2534
3.2 .................
3.3 มีหลักฐานของผู้ให้เป็นลายลักษณ์อักษรแสดงว่าได้ให้ของแก่ส่วนราชการหรือองค์การ
สาธารณกุศล โดยไม่มีเงื่อนไขและข้อผูกพันใด ๆ ทั้งนี้ ผู้ให้ต้องแสดงความจำนงในหลักฐานดังกล่าวไว้
ก่อนวันที่นำเข้ามาในราชอาณาจักร
กรณีของบริษัทฯ ได้นำเข้าอุปกรณ์และส่วนประกอบของเครื่องจักรเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตตาม
บัตรส่งเสริมการลงทุน ต่อมาบริษัทฯ ได้ประสบปัญหาเศรษฐกิจจึงได้นำอุปกรณ์และส่วนประกอบของ
เครื่องจักรดังกล่าวไปฝากไว้ที่นิคมอุตสาหกรรมส่งออกแหลมฉบัง เพื่อเป็นการลดภาระเรื่องภาษีอากร
บริษัทฯ มิได้มีเจตนาในการบริจาคไว้ก่อนวันที่นำของเข้ามาในราชอาณาจักร ประกอบกับผู้ยื่นขอยกเว้น
อากรจะต้องเป็นผู้รับบริจาคมิใช่บริษัทฯ ผู้บริจาค กรณีนี้จึงไม่อยู่ในข่ายได้รับยกเว้นอากรตามประเภทที่
11 ภาค 4 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2530
2. การยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 81(2)(ค) แห่งประมวลรัษฎากร กำหนดให้
ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการนำเข้าสินค้าที่จำแนกประเภทไว้ในภาคว่าด้วยของที่ได้รับยกเว้นอากร
ตามกฎหมายว่าด้วยพิกัดอัตราศุลกากร เนื่องจากบริษัทฯ นำเข้าอุปกรณ์และส่วนประกอบของเครื่องจักร
ไม่อยู่ในข่ายได้รับยกเว้นอากรตามประเภทที่ 11 ภาค 4 แห่งพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ.
2530 ดังนั้น บริษัทฯ ในฐานะผู้นำเข้าตามมาตรา 77/1(11) ประมวลรัษฎากร จึงต้องเสีย
ภาษีมูลค่าเพิ่มตามมาตรา 82(2) แห่งประมวลรัษฎากร ประกอบกับมาตรา 77/2(2) แห่ง
ประมวลรัษฎากร